Soft Skills การพัฒนาตนเอง ทักษะก่ารทำงาน

9 Soft Skills ที่คนทำงานควรมี ในปี 2019 – ปรับใช้ได้ทั้งเด็กจบใหม่ คนทำงานแล้ว

Home / บทความการทำงาน / 9 Soft Skills ที่คนทำงานควรมี ในปี 2019 – ปรับใช้ได้ทั้งเด็กจบใหม่ คนทำงานแล้ว

การทำงานที่ได้รับมอบหมายหรือสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างดีเป็นไปตามเป้าหมายขององค์กรนั้น คนทำงานอย่างเราก็ต้องมีความรู้ความสามารถที่เกี่ยวข้องกับอาชีพที่เราทำอยู่ ที่เรียกกันว่า “ฮาร์ด สกิล” (Hard Skills) ซึ่งเป็นทักษะที่จะทำให้เรามีความเชี่ยวชาญในตำแหน่งงานหรืออาชีพนั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ทักษะที่เกี่ยวกับสายงานโดยตรงอย่างเดียวนั้น อาจจะไม่เพียงพอต่อโลกการทำงานในปัจจุบัน เพราะบริษัทต่าง ๆ ยังมองไปถึง “ซอฟต์ สกิล” (Soft Skills) ของพนักงานด้วย ซึ่ง Soft Skills ก็คือ ทักษะที่ค่อย ๆ พัฒนามาจากการใช้ชีวิต การเข้าสังคม และการทำงาน ซึ่งเป็นทักษะที่สามารถเอาไปปรับใช้ได้ ไม่ว่าจะทำงานในสายงานไหนก็ตาม

9 Soft Skills ที่คนทำงานควรมี ในปี 2019

โดยวันนี้ นางสาวแสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการของ จ๊อบไทย (JobThai) ผู้ให้บริการหางาน สมัครงาน ออนไลน์ อันดับ 1 ของประเทศไทย จะมาเผย 9 Soft Skills ที่คนทำงานควรมีในปี 2019 เพื่อที่จะช่วยทำให้คุณกลายเป็นพนักงานที่โดดเด่นเข้าตาองค์กร

1. การบริหารเวลา (Time Management)

ทักษะการบริหารเวลาอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็เป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่ายเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะคนทำงานในยุคนี้ ที่ต้องเร่งรีบเพื่อแข่งกับเวลา และต้องทำอะไรหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน

ดังนั้น ทักษะในการบริหารเวลาจึงเป็นทักษะที่สำคัญต่อคนทำงาน ซึ่งการทำงานในแต่ละวันควรมีการวางแผน ควบคุม กำหนดระยะเวลา และจัดลำดับความสำคัญของงานให้ชัดเจน เพื่อทำให้งานสําเร็จตามเป้าหมายในเวลาที่กำหนด ซึ่งจะช่วยลดความเครียดที่เกิดจากงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการทํางานและมีเวลาสำหรับทำกิจกรรมส่วนตัวอื่น ๆ อีกด้วย

2. การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life-Long Learning)

ในปัจจุบันการพัฒนาที่ก้าวกระโดดของเทคโนโลยีทำให้เกิดนวัตกรรม เกิดอาชีพใหม่ ๆ ตลอดจนวิธีการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้การทำงานในยุคนี้ใช้ความรู้ในสาขาวิชาเดียวคงไม่เพียงพออีกต่อไป ดังนั้นคนทำงานจึงต้องมีการเตรียมพร้อมในการเรียนรู้อยู่เสมอ

และสิ่งสำคัญสำหรับการเรียนรู้ของคนทำงานในยุคนี้คือ วิธีการอ่านจับใจความสำคัญ การสรุปประเด็น และการเชื่อมโยงข้อมูลความรู้ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ตลอดจนสามารถวิเคราะห์ความเหมือนและความแตกต่างจากสิ่งที่เรียนรู้มาได้ ซึ่งทักษะนี้จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้

3. ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence)

การทำงานในองค์กรหรือแม้แต่คนที่ทำงานอิสระเองนั้น ล้วนต้องมีการติดต่อประสานงานกับผู้อื่นทั้งสิ้น ดังนั้น Emotional Intelligence จึงเป็นทักษะสำคัญ และส่งผลอย่างมากต่อการทำงาน

เพราะคนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ คือคนที่มีความสามารถในการสังเกต ทำความเข้าใจ จัดการ และแสดงออกทางอารมณ์ของตัวเองได้อย่างดี รวมถึงสังเกตและทำความเข้าใจอารมณ์ของคนอื่นด้วย ทักษะนี้จะช่วยให้คนทำงานสามารถควบคุมอารมณ์และแสดงออกได้อย่างเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ รวมถึงบริหารจัดการกับความเครียด ซึ่งส่งผลให้การสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างมีคุณภาพ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน และยังทำให้ทั้งสุขภาพกายและใจดีตามไปด้วย

4. ความสามารถในการปรับตัว (Adaptability)

– อย่างที่ทราบกันดีว่าโลกทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการติดต่อสื่อสาร เครื่องมือและวิธีการทำงาน เป็นต้น ความสามารถในการปรับตัวและมีความยืดหยุ่นทางความคิด จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยคนที่มีทักษะในการปรับตัวและเปลี่ยนมุมมองความคิดจะสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และสามารถพลิกแพลงหาวิธีที่เหมาะสมกับสถานการณ์หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี

5. การทำงานร่วมกับผู้อื่น (Collaboration)

– การทำงานทุกวันนี้เราต้องทำงานร่วมกับคนที่หลากหลาย ทั้งในแง่ของสายงาน ช่วงวัย หรือรูปแบบการทำงาน องค์กรต่าง ๆ จึงต้องการคนทำงานที่มีทักษะในการทำงานร่วมกับคนอื่น เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกันภายในทีมตัวเอง และการทำงานร่วมกับคนอื่น ๆ รวมไปถึงทักษะในการบริหารคน ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในคนทำงานระดับหัวหน้าอีกต่อไป แต่จำเป็นสำหรับคนทำงานในทุก ๆ ระดับ

9 Soft Skills ที่คนทำงานควรมี ในปี 2019

6. การสื่อสาร (Communication)

ไม่ว่าจะทำงานในธุรกิจไหน หรือองค์กรใด แน่นอนว่าในที่ทำงานต้องมีการติดต่อสื่อสารกัน ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนองาน การเสนอความคิดเห็นทั้งกับหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือลูกน้อง ซึ่งการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้เกิดความร่วมมือและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการทำงาน ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น

นอกจากนั้นยังรวมไปถึง ทักษะการประสานงานและการเจรจาต่อรองด้วย ว่าจะใช้การเจรจาอย่างไรเพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และมีทางออกแบบ Win-Win Situation หรือสถานการณ์ที่ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย

7.การแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อน (Complex Problem Solving)

เนื่องจากทุกวันนี้องค์กรต่าง ๆ ถูกผลกระทบจากเทคโนโลยี ตลอดจนความหลากหลายของธุรกิจ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงขององค์กรได้อย่างรอบด้าน ทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นมีความแตกต่างไปจากอดีตและมีความซับซ้อนมากขึ้น องค์กรต่าง ๆ จึงต้องอาศัยคนที่สามารถมองเห็นและแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนเหล่านั้น ทำให้ทักษะการแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อนถูกพูดถึงกันอยู่ไม่น้อย

โดยทักษะนี้ต้องอาศัยหลายทักษะย่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น การเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล ระบุปัญหาและความต้องการของลูกค้า อาศัยความเข้าใจในการเชื่อมโยง และใช้ความสามารถในการอ่านบริบทของธุรกิจ ตลอดจนต้องสร้างสรรค์วิธีแก้ไขปัญหาในรูปแบบต่าง ๆ ตามแต่ละสถานการณ์แล้วตัดสินใจแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม

8.การคิดเชิงวิเคราะห์และเลือกตัดสินใจ (Critical Thinking and Decision-making)

ยุคแห่งข้อมูลมหาศาลที่รอให้เข้าไปขุดค้นออกมา หรือ Big Data กำลังเป็นที่พูดถึงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ แถมข้อมูลพวกนี้จะเยอะขึ้นอีกในอนาคตเมื่อความสามารถของหุ่นยนต์พัฒนาไปไกลกว่าปัจจุบัน ซึ่งทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ จะช่วยให้เราสามารถย่อยข้อมูลจำนวนมากได้ โดยต้องรู้จักตั้งคำถามเชิงวิเคราะห์ ตีความ ประเมินทางเลือกและตัดสินใจ เพื่อให้องค์กรได้ประโยชน์สูงสุด และเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้หรือไม่มีความผิดพลาดเลย

9.ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)

คือความพยายามสร้างบางอย่างที่นอกเหนือไปจากสิ่งที่คนทั่วไปมองเห็น ถือว่าเป็นทักษะที่มีคุณค่ามากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะไม่มีหลักสูตรตายตัวในการเรียน การสอน ทักษะนี้ยังเป็นการรวมเอาหลาย ๆ ทักษะย่อยไว้ด้วยกัน เช่น ช่างสังเกต อยากรู้อยากเห็น และการเปิดใจกว้าง รวมถึงการเสพข้อมูลต่าง ๆ อย่างหลากหลาย

ความคิดสร้างสรรค์ในที่นี้ไม่ได้ใช้ในงานศิลปะเท่านั้น แต่เป็นการนำความคิดสร้างสรรค์มาใช้กับงาน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่จะช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้า ซึ่งองค์กรต่าง ๆ อยากได้คนที่มีทักษะนี้เข้าไปมีส่วนร่วมในการหยิบเอาเทคโนโลยี วิธีการทำงาน หรือแนวคิดมาใช้สร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ ให้องค์กรด้วย

จะเห็นได้ว่าในโลกของการทำงาน “ซอฟต์ สกิล” (Soft Skills) มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่า “ฮาร์ด สกิล” (Hard Skills) ดังนั้นถ้าคนทำงานเรียนรู้และนำสิ่งเหล่านี้ ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับตนเอง ก็จะส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม จ๊อบไทย ยังมีบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อคนทำงานอีกมากมาย

โดยผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ จ๊อบไทย (JobThai) โทรศัพท์ 02-353-6900 หรือ www.jobthai.com