chula CHULA MOOC การพัฒนาตนเอง เรียนออนไลน์

แนะนำ 3 แพลตฟอร์ม ฝึก Future skill จาก 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำ

Home / วาไรตี้ / แนะนำ 3 แพลตฟอร์ม ฝึก Future skill จาก 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำ

เป็นที่ทราบกันดีว่าวิกฤตโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทำให้ทุกภาคส่วนต้องเร่งปรับตัว เพื่อเอาตัวรอด ต่อสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สถานประกอบการหลายแห่ง ต้องหยุดหรือเลิกกิจการไป เพราะมาตรการลดการระบาดของโรค  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและธุรกิจบริการ นำไปสู่ภาวะการเลิกจ้าง และว่างงาน รวมถึงกระทบต่อบัณฑิต ที่กำลังจะจบการศึกษาและเข้าสู่ตลาดแรงงาน อีกทั้งเรื่องของเทคโนโลยีดิสรัปชั่น ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญ และกลายเป็นความท้าทายของตลาดแรงงานทั่วโลก – อ่านบทความ : แนะนำ 3 แพลตฟอร์มฝึก Future skill จาก 3 มหาวิทยาลัยชื่อดัง

รู้จัก 3 แพลตฟอร์มฝึก Future skill

เป็นผลให้หลายคนต้องทำงานในอาชีพที่ไม่เคยได้เรียนในตำรามาก่อน และพบว่าไม่สามารถอาศัยความรู้หรือทักษะดั้งเดิมที่ได้จากการเรียนในห้องเรียนหรือสถาบันการศึกษามาใช้ในการทำงานได้อีกต่อไป ทำให้แรงงานในทุกช่วงวัยต้องพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงนี้ ด้วยการสร้างทักษะใหม่ที่จำเป็น ให้สอดคล้องกับความต้องการขององค์กร (Reskill) การพัฒนาเพื่อยกระดับทักษะเดิมให้ดีขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต (Upskill) รวมถึงการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ต้องนำมาประยุกต์ใช้กับการทำงาน (Newskill) เช่น ทักษะทางด้านดิจิทัล หรือทำงานร่วมกับ AI

แนะนำ 3 แพลตฟอร์ม ฝึก Future skill จาก 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำ

ดังนั้น เมื่อการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่สามารถตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลก จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง ที่สถาบันอุดมศึกษา ต้องเร่งดำเนินการปรับบทบาท ในกระบวนการผลิตและพัฒนากำลังคนที่มีคุณภาพ เพื่อให้แรงงานในทุกช่วงวัยได้เข้าถึงแหล่งการเรียนรู้ และพัฒนาทักษะ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง และตอบโจทย์ตลาดแรงงานในอนาคต รวมถึงการพัฒนาประเทศ ตามแนวคิดการพัฒนาทักษะและการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Life-Long Learning) เพื่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

วันนี้ จะพาไปทำความรู้จักกับ แพลตฟอร์ม และหลักสูตรการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาทักษะที่น่าสนใจจาก 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศไทย ดังนี้

CHULA

เรียนรู้แบบไร้ขีดจำกัด ที่ใครๆ ก็เรียนได้ ทุกที่ ทุกเวลา

CHULA MOOC เรียนรู้แบบไร้ขีดจำกัด ที่ใครๆ ก็เรียนได้ ทุกที่ ทุกเวลา

CHULA MOOC คือ แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ ภายใต้การดำเนินงานของ ศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้ (Learning Innovation Center) จุฬาลงการณ์มหาวิทยาลัย โดยยึดหลักตามแนวคิด การเรียนรู้ตลอดชีวิต หรือ Lifelong Learning ด้วยการ เปิดคอร์สเรียนออนไลน์ในวิชาต่างๆ หลากหลายวิชา สอนโดยอาจารย์ผู้มากความสามารถจากคณะต่างๆ ของจุฬาฯ สร้างขึ้นสำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทุกช่วงวัยที่สนใจแสวงหาความรู้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และเข้าถึงได้ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ อย่างสะดวกสบาย เพื่อเป็นการขยายโอกาส ในการเข้าถึงการเรียนรู้สำหรับทุกคน อย่างไร้ข้อจำกัดในเรื่องของเวลา หรือการเดินทาง และเมื่อเรียนจบคอร์ส จะได้รับใบรับรองจากสถาบันอีกด้วย

ปัจจุบัน CHULA MOOC แบ่งคอร์สเรียนออกเป็น 5 หมวดหลัก ได้แก่ ภาษา เทคโนโลยี การจัดการ ศิลปะและการพัฒนาตนเอง และสุขภาพ โดยปรับเปลี่ยนไปตามกระแสและสถานการณ์ของสังคม เพื่อให้ทุกคนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ ในการดำเนินชีวิตได้จริง ตัวอย่างวิชาที่น่าสนใจและได้รับความนิยม เช่น ความปกติใหม่ในอุตสาหกรรมก่อสร้างของไทย (BIM), Data Analytics เป็นต้น

TU

แพลตฟอร์มการเรียนรู้แห่งอนาคต

TU NEXT Thammasat For Future Skillset แพลตฟอร์มการเรียนรู้แห่งอนาคต

สถาบันเสริมศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ ในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของประเทศ ผ่านการ Reskill และ Upskill จากการสั่งสมประสบการณ์ด้านการจัดการเรียนการสอน อบรมออนไลน์ มาเป็นระยะเวลานาน ล่าสุดจึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล สำหรับการเรียนออนไลน์ ที่มีชื่อว่า TU NEXT ขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนที่ต้องการฝึกทักษะได้เข้ามาหาความรู้ และพัฒนาศักยภาพได้อย่างไร้ข้อจำกัด ผ่านการอบรมโดยทีมคณาจารย์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

โดยผู้ที่สนใจ สามารถเลือกลงทะเบียนและเสียค่าใช้จ่าย เพื่อเรียนในเรื่องที่ตนเองต้องการได้ ตัวอย่างหลักสูตรที่น่าสนใจ เช่น หลักสูตรเส้นทางสู่โอกาสสร้างรายได้: พืชเศรษฐกิจใหม่กัญชงและกัญชา, หลักสูตรติดอาวุธการนำเสนอแบบ 360 องศา เป็นต้น

KMITL

ทำลายทุกขีดจำกัดของการศึกษา

KMITL Masterclass ทำลายทุกขีดจำกัดของการศึกษา

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้เปิดตัว KLIX หรือ แพลตฟอร์มการเรียนรู้ในระบบ EdX เพื่อนำเสนอการศึกษาในรูปแบบการเรียนออนไลน์ ในโครงการผลิต วิชาออนไลน์ 6 Masterclass ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่เกิดขึ้นในโอกาสครบรอบ 60 ปี พระจอมเกล้าลาดกระบัง สร้างขึ้นสำหรับนักศึกษาและบุคคลทั่วไป โดยมีทั้งแบบเสียค่าใช้จ่ายและฟรี

ด้วยการดึงศักยภาพสถาบันการศึกษา สำหรับโลกแห่งอนาคต สร้าง 6 วิชานำร่อง ร่วมกับ 6 องค์กรชั้นนำ ในการผลิตสื่อการเรียนการสอน ตอบโจทย์การศึกษายุคใหม่ ด้วยการออกแบบวิชาที่หลากหลาย สำหรับคนทุกช่วงวัยอย่างทันสมัย และทันสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลกและเทคโนโลยี ทำให้มีผู้สนใจสมัครเรียนและได้รับความนิยมอย่างมาก

ตัวอย่างหลักสูตรที่ได้รับความนิยม เช่น Digital Media Production: การผลิตสื่อดิจิทัล (Introduction), Modern Entrepreneur: ผู้ประกอบการสมัยใหม่ (Introduction) เป็นต้น

แพลตฟอร์มฝึก Future skill จากภาครัฐและเอกชน

นอกจากแพลตฟอร์มพัฒนาทักษะแรงงาน ผ่านการเรียนการสอนออนไลน์ ของสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ดังกล่าวแล้ว ยังมีแพลตฟอร์มในรูปแบบดิจิทัล จากภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศอีกมากมาย ที่มีเป้าหมายมุ่งพัฒนาทักษะ (Reskill – Up-skill – Newskill) ให้แรงงานในทุกช่วงวัย ได้เลือกเรียนรู้ในสิ่งที่สนใจ และต้องการนำไปต่อยอด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการกำลังคนในอนาคต สร้างโอกาส สร้างรายได้ รองรับการทำงานในอนาคตหลังภาวะวิกฤต รวมถึงในปัจจุบัน สถาบันอุดมศึกษาหลายแห่ง ได้มีการเปิดสอน หลักสูตรประกาศนียบัตร (Non-degree) ภายใต้โครงการพัฒนาทักษะกำลังคนของประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการพัฒนากำลังคนของประเทศ

อย่างไรก็ดี แนวนโยบายด้านการพัฒนาทักษะ หรือยกระดับศักยภาพทุนมนุษย์ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ข้างต้น ถือเป็นหนึ่งในภารกิจ การปฏิรูประบบการศึกษาไทยของ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ที่ได้กำหนดกรอบการปฏิรูประบบการศึกษาไทยเชิงนโยบาย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุน ให้คนไทยในทุกช่วงวัย สามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาได้อย่างไร้ขีดจำกัด

โดยส่วนหนึ่งของตัวอย่างความสำเร็จ คือ โครงการ “พัฒนามหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย เพื่อการจัดการเรียนการสอนในระบบเปิด” (Thai-MOOC) โดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่ในปัจจุบันได้เปิดหลักสูตรให้ผู้สนใจ เลือกศึกษาเพื่อเพิ่มพูนทักษะที่จำเป็น ต่อการดำรงชีวิต หรือจำเป็นต่อการทำงานในโลกยุคดิจิทัล เป็นจำนวนมากกว่า 500 หลักสูตร ซึ่งครอบคลุมสถาบันการศึกษาทั่วประเทศรวมกว่า 120 แห่ง

ขอรับใบประกาศนียบัตร (Certificate)

ขอรับใบประกาศนียบัตร (Certificate)

ทั้งนี้ ในบางหลักสูตรเมื่อเรียนจบ หรือสอบวัดผลผ่านเกณฑ์การเรียนรู้ ผู้เรียนสามารถทำรายการในระบบ เพื่อขอรับใบประกาศนียบัตร (Certificate) ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามในอนาคตคาดว่าประเทศไทยจะมีโครงการหรือกลไกอื่นๆ ที่จะสามารถช่วยหลักดันให้ผลิตผลทางการศึกษาของไทย ตอบโจทย์ความต้องการของโลก ที่มีเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่หยุดยั้ง

ติดตามความเคลื่อนไหวกิจกรรม ของ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา ได้ใน 4 ช่องทาง ดังนี้ เว็บไซต์ www.thaiedreform2022.org , Facebook : Thaiedreform2022 , Youtube : ‘thaiedreform2022’ และ Twitter : Thaiedreform22

บทความแนะนำ