ในช่วง 5 ปีแรกของเด็กถือเป็น “เวลาทอง” สำหรับพ่อแม่ในการวางพื้นฐานต่าง ๆ ให้กับลูก เพราะเป็นช่วงเวลาที่สมองของเด็กมีการเติบโตและมีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะด้านภาษาที่เด็กจะมีการเรียนรู้และจดจำได้ในระยะยาว ซึ่งการปูพื้นฐานทักษะภาษาอังกฤษที่แข็งแรงต้องมาจากความรู้ความเข้าใจภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง และทักษะแรกที่เด็ก ๆ ควรได้รับการฝึกฝนคือการพูดอย่างถูกวิธี เพราะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการต่อยอดไปสู่ทักษะอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง
บริติช เคานซิล ชูคอร์ส Primary Phonics Plus : Jolly Phonics
โดยแนวทางการสอนที่มีประสิทธิภาพและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายคือ “Jolly Phonics” ซึ่งเป็นวิธีการสอนภาษาอังกฤษให้เด็ก ๆ สามารถออกเสียง อ่านออก เขียนได้ ผ่านการเรียนการสอนที่สนุกสนาน เทคนิคการสอนนี้ จะเน้นให้เด็กได้เรียนรู้เสียงของตัวอักษรผ่านการแสดงท่าทางด้วยสื่อหลากหลายประเภท เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ของสมองอย่างเป็นระบบ
รู้จัก… รูปแบบการสอนแบบ Jolly Phonics
เดวิด แครทดอร์ค (David Craddock) Head of Young Learners บริติช เคานซิล ประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า การสอนแบบ “Jolly Phonics” จะฝึกฝนเด็ก ๆ ให้ได้เรียนรู้เสียงของตัวอักษรต่าง ๆ และสามารถเปล่งเสียงออกมาได้แตกต่างกัน 42 เสียง จากการฟังนิทาน การเห็นการแสดงท่าทางประกอบเรื่องราวต่าง ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นความสนใจ เกิดการจดจำอย่างรวดเร็วและแม่นยำ รวมถึงเด็ก ๆ จะได้เรียนรู้การผสมเสียง และสร้างเป็นคำศัพท์ต่างๆ โดยกระบวนการเรียนการสอนแบบนี้จะสนับสนุนให้เด็กเกิดการเรียนรู้ตามธรรมชาติ และช่วยพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
ทั้งนี้ บริติช เคานซิล มีคอร์ส Primary Phonics Plus ออกแบบมาสำหรับเด็กอนุบาล 3 ที่มีอายุ 5-6 ปี ซึ่งจะได้เรียนรู้ทักษะการอ่าน การเขียน และการออกเสียงผ่านการสอนแบบ “Jolly Phonics” อย่างสนุกสนานด้วยหลากหลายกิจกรรมสร้างสรรค์ โดยนำเสนอบทเรียนที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน ทำให้เด็กสามารถนำคำศัพท์ไปใช้ได้จริง พร้อมสร้างจินตนาการและส่งเสริมนิสัยรักการอ่านจากการเล่านิทาน เพื่อพัฒนาการที่สำคัญในอนาคต ยิ่งกว่านั้น เด็ก ๆ จะได้เรียนภาษาอังกฤษในบรรยากาศระดับสากล เป็นมิตร และเหมาะสำหรับการเรียนรู้ของ เด็กเล็ก โดยอาจารย์เจ้าของภาษาที่ได้รับประกาศนียบัตรและเชี่ยวชาญในการสอนเด็กเล็กโดยเฉพาะ
กิจกรรมที่จะทำให้เราสนุกกับการเรียนอังกฤษ
นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมที่เด็ก ๆ ชื่นชอบคือ Pick up and pass ซึ่งจะกระจายการ์ดเสียงตัวอักษรลงบนโต๊ะ แล้วครูพูดเสียงตัวอักษรออกมาพร้อมทั้งเรียกชื่อเด็กคนใดคนหนึ่งให้หยิบการ์ดเสียงตัวอักษรนั้น ๆ อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะทำแบบเดียวกันกับเด็กคนอื่น และทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าการ์ดเสียงตัวอักษรถูกเด็ก ๆ หยิบจนหมด หรือกิจกรรม Shuffle and deal ที่ให้เด็ก ๆ วางการ์ดเสียงตัวอักษรเป็นแถวตรงหน้าตัวเอง แล้วให้พวกเขาอ่านออกเสียงตัวอักษรเหล่านั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากนั้น ครูก็จะพูดคำศัพท์ขึ้นมาหนึ่งคำ และให้เด็ก ๆ ช่วยกันหยิบการ์ดเสียงตัวอักษรของคำดังกล่าวมาเรียงให้ถูกต้อง
สำหรับเด็กที่ผ่านคอร์ส Primary Phonics Plus จะมีพัฒนาการทักษะภาษาอังกฤษอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็นด้านการอ่านและการเขียน รวมถึงมีความมั่นใจมากขึ้นในการสื่อสารทั้งการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ โดยจากการเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ จะทำให้มีคลังคำศัพท์มากขึ้น และสามารถใช้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษได้อย่างแม่นยำกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เด็ก ๆ กล้าพูดภาษาอังกฤษอย่างเป็นธรรมชาติ
ครอบครัวก็มีส่วนสำคัญในการเรียน
เดวิด แครทดอร์ค กล่าวเสริมว่า พ่อแม่มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาภาษาอังกฤษของเด็ก ๆ ด้วยเช่นกัน โดยพ่อแม่อาจสร้างบรรยากาศการพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษภายในบ้าน โดยไม่ต้องกังวลว่าลูกของตนเองจะออกเสียงสำเนียงถูกต้องหรือไม่ เพราะเด็ก ๆ มีสามารถในการจดจำการออกเสียงภาษาอังกฤษจากคุณครูเจ้าของภาษาได้อยู่แล้ว เพียงแต่พวกเขาควรได้รับการกระตุ้นให้รู้สึกว่า “ฉันสามารถพูดภาษาอังกฤษได้” และ “ฉันชอบภาษาอังกฤษ”
ซึ่งพ่อแม่ควรสนับสนุนเด็ก ๆ ในหลากหลายวิธีการ เพื่อให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยการสร้างพื้นฐานทักษะภาษาอังกฤษผ่านแนวทางต่าง ๆ เช่น ร้องเพลงภาษาอังกฤษด้วยกัน หรือสอดแทรกการพูดภาษาอังกฤษเข้ากับกิจกรรมที่ลูกของตัวเองให้ความสนใจ รวมถึงสร้างช่วงเวลาพิเศษด้วยภาษาอังกฤษ อย่างวันเกิดที่มีการทำการ์ดวันเกิดและเขียนคำอวยพรเป็นภาษาอังกฤษ และในช่วงของการเล่นเกมก็เลือกเกมที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร เป็นต้น
ดังนั้น เมื่อเด็ก ๆ ได้เรียนคอร์ส Primary Phonics Plus และผนวกกับแรงผลักดันจากผู้ปกครอง ก็จะช่วยเสริมความมั่นใจให้กับน้อง ๆ ว่าจะสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว อันเป็นจุดเริ่มต้นที่มั่นคงสำหรับการก้าวไปสู่การเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาได้โดยไร้ความกังวล! สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : www.britishcouncil.or.th