ในยุคปัจจุบันการติดต่อสื่อสาร การค้าระหว่างประเทศ การทำธุรกิจต่างๆ ก็มีการเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น ทำให้มีนักธุกิจมาลงทุนในเมืองไทยเป็นจำนวนมาก แถมยังทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยมากยิ่งขึ้นอีกด้วย จึงทำให้มีการแข่งขันระหว่างนักศึกษาจบใหม่กันมากเพิ่มมากขึ้นในการเรียนรู้ภาษาที่สาม นอกจากที่เราจะเรียนรู้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษแล้ว 10 อันดับภาษาที่สามที่น่าเรียนจะมีภาษาอะไรบ้าง? ตามมาดูกันเลย
10 ภาษาน่าเรียน เพื่ออนาคตที่สดใส
1. ภาษาจีนกลาง (Mandarin)
ด้วยความที่ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นคนที่ใช้ภาษาจีนจึงมีมากกกว่าพันล้านคน นอกจากนี้จีนยังเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจและอุตสาหรกรรมใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก (ซึ่งคาดว่าในอนาคตน่าจะขึ้นมาเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจและอุตสาหรกรรมใหญ่เป็นอับดับที่ 1 ของโลก)
เมื่อเราลองสังเกตดูว่าในปัจจุบันนี้มีชาวจีนเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และแน่นอนว่าต้องส่งผลต่อในเรื่องของการประกอบอาชีพ การทำงานในอนาคตด้วย เพราะบริษัทต่างๆ ก็ต้องการคนที่พูดภาษาจีนได้ เพิ่มเข้ามาเป็นภาษาที่สามต่อจากภาษาอังกฤษ
2. ภาษาสเปน (Spanish)
ภาษาสเปนเป็นภาษาที่ใช้ในสามทวีปด้วยกัน ได้แก่ อเมริกาใต้ ยุโรป และแอฟริกา คนพูดภาษาสเปนได้กว่า 400 ล้านคน และยังเป็นภาษาที่ 2 ในประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
ซึ่งมีแนวโน้มว่าภาษาสเปนจะเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว และมีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจระหว่างประเทศ และเป็นภาษาที่นิยมมากในการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยของประเทศสหรัฐอเมริกา ถือว่าภาษาสเปนเป็นภาษาที่กำลังมาแรง น้องๆ ควรศึกษาไว้เพื่อความได้เปรียบของเราในอนาคต
3. ภาษาญี่ปุ่น (Japanese)
ปัจจุบันนี้ในเมืองไทยมีบริษัทญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในประเทศเป็นจำนวนมาก เช่น บริษัทผลิตสินค้าอุตสาหกรรม ยานยนต์ ไฟฟ้า เครื่องจักร อาหารและอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งถ้าเรารู้ภาษาญี่ปุ่นไว้จะเป็นตัวช่วยที่ดีในการได้งานทำมากกว่าคนที่ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นเลย เพราะไม่ว่าจะเป็นการติดต่อซื้อขาย ด้านธุรกิจ การค้า หรือการทำงานร่วมกับองค์กรญี่ปุ่นก็จะได้รับความไว้วางใจมากกว่าคนที่สื่อสารภาษาญี่ปุ่นไม่ได้เลย นี่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการที่เราควรเริ่มศึกษาเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นเอาไว้เป็นภาษาที่สามด้วย
4. ภาษาฝรั่งเศส (French)
ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่มีจำนวนประชากรทั้ง 5 ทวีป ใช้พูดมากกว่า 200 ล้านคน ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่ในองค์กรต่างๆ ระดับโลกใช้สื่อสารกัน เช่น สหภาพยุโรป ไอโอซี ยูเนสโก้ และองค์การสหประชาชาติ โดยปัจจุบันการท่องเที่ยวในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว มีนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ถ้าเรารู้ภาษาฝรั่งเศส มีโอกาศที่เราจะได้ทำงานด้านท่องเที่ยวและอาชีพอื่นที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย
5. ภาษาอิตาลี (Italian)
การพูดภาษาอิตาลีนับเป็นช่องทางหนึ่งที่ทำให้เกิดการสื่อสารระหว่างบุคคล วัฒนธรรม และอาชีพ ทำให้ภาษาอิตาลีเป็นภาษาหนึ่งที่มีความสำคัญของโลกมากขึ้นทุกวัน เพราะเป็นภาษาที่มีอิทธิพลแห่งศิลป์ จิตรกร กวี นักเขียน ปรัชญา และเป็นภาษาของพระสันตะปาปา ทำให้ภาษาอิตาลีนั้นมีคุณค่าในการเรียนรู้เป็นอย่างมาก
คนที่รู้ในภาษานี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้สาขาวิชาชีพที่หลากหลายมากขึ้น เนื่องจากประเทศอิตาลีเป็นผู้นำทางด้านศิลปะ การทำอาหาร การตกแต่งภายใน แฟชั่น ออกแบบกราฟฟิก ออกแบบเฟอร์นิเจอร์ และอุตสาหกรรมต่างๆ อีกมากมาย
6. ภาษาเยอรมัน (German)
เป็นภาษาราชการของประเทศมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจของยุโรปหลายประเทศ คนกว่า 100 ล้านคนสามารถพูดภาษาเยอรมันได้ และนอกจากนี้ประเทศเยอรมนียังมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจมากที่สุดในสหภาพยุโรปอีกด้วย โดยสื่อ US News & World Report ร่วมกับบริษัท BAV Consulting และคณะบริหารธุรกิจของมหาวิทยาลัย Pennsylvania ได้จัดอันดับให้ประเทศเยอรมนีเป็นประเทศที่ดีที่สุดในการริเริ่มทำธุรกิจเลยทีเดียว
สำหรับประเทศไทยมีบริษัทสัญชาติเยอรมันหลายบริษัทที่เข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทย และแน่นอนว่าความสามารถทางด้านการพูดภาษาเยอรมันย่อมเป็นที่ได้เปรียบเหนือคู่แข่งในการสมัครงานและยังจะนำมาซึ่งความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของเราด้วย
7. ภาษาอาหรับ (Arabic)
ภาษาอาหรับเป็นหนึ่งในภาษาของสหประชาชาติและเป็นภาษาราชการของกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เช่น อิรัก คูเวต จอร์แดน อิสราเอล แอลจีเรีย บาห์เรน ปาเลสไตน์ และซาอุดีอาระเบีย เป็นต้น เราจะเห็นได้ว่าภาษาอาหรับเป็นภาษาของศาสนาอิสลามที่เติบโตได้อย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวเพิ่มมากขึ้นทุกปี ปัจจุบันมีผู้พูดภาษาอาหรับได้ทั้งหมด 246 ล้านคนจากทั่วโลก (มากเป็นอันดับ 6 ของโลกเลยทีเดียว)
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ภาษาอาหรับเป็นอีกหนึ่งภาษาที่น่าสนใจก็คือ กลุ่มประเทศในตะวันออกเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นประเทศที่มีอิทธิพลในเศรษฐกิจน้ำมันโลก ทำให้ภาษาอาหรับเป็นภาษาที่คนต้องการเรียนรู้เพื่อใช้สื่อสารมากขึ้น แต่สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะเรียนภาษาอาหรับต้องบอกเลยว่า เป็นภาษาที่มีระดับความยากอยู่ในอันดับที่ 3 รองจากภาษาจีนและภาษาญี่ปุ่นเลยทีเดียว เนื่องจากว่ามีระบบการเขียนที่ยาก และหลักไวยากรณ์ที่ซับซ้อนนั่นเอง
8. ภาษาเกาหลี (Korean)
สำหรับกระแสเกาหลีฟีเวอร์ในบ้านเรานั้น มาแรงมากๆ ไม่ท่าทีจะตกเลยทีเดียว เพราะด้วยวัยรุ่นนิยมดูซีรีส์เกาหลี ฟังเพลงเกาหลีกันมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และนอกจากนี้แล้วประเทศเกาหลียังมีการชติดต่อในเรื่องต่างๆ กับเมืองไทยมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการค้า เศรษฐกิจ ความมั่นคงทางศาสนา และการเมือง ดังนั้นจึงทำให้ภาษาเกาหลีเป็นอีกหนึ่งภาษาที่เราควรเรียนรู้เอาไว้ และยิ่งตอนนี้ประเทศไทยก็เข้าสู่ AEC แล้ว ทำให้ต้องศึกษาภาษาที่สามกันมากขึ้น ใครที่คิดอยากจะศึกษาภาษาอื่นเพิ่มเติม ภาษาเกาหลีก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเหมือนกันนะ
9. ภาษารัสเซีย (Russian)
ปัจจุบันระหว่างไทยและรัสเซียมีการเปิดเสรีด้านวีซ่า ทำให้เราเดินทางเข้าประเทศรัสเซียโดยไม่ต้องขอวีซ่า สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวระหว่างประเทศได้อย่างเสรี เป็นการช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวระหว่างกัน มีชาวรัสเซียเลือกที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีอัตราเพิ่มขึ้นในทุกปีมากกว่าทุกประเทศ ถือเป็นการขยายตัวอย่างก้าวกระโดดของนักท่องเที่ยว แต่ก็ยังมีความขาดแคลนคนที่รู้ภาษารัสเซียอยู่ดีในปัจจุบัน ดังนั้นยิ่งถ้าใครรู้ภาษารัสเซียถือได้ว่าได้เปรียบมากเลยทีเดียว
10. โปรตุเกส (Portuguese)
เป็นภาษาราชการในหลายประเทศทั่วโลก เช่น ประเทศโปรตุเกส บราซิล แองโกลา โมซัมบิก และประเทศติมอร์-เลสเต เป็นต้น หากพิจารณาในด้านของเศรษฐกิจแล้ว จะเห็นได้ว่าประเทศส่วนใหญ่ที่ใช้ภาษาโปรตุเกสจะเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาอยู่ในแถบทวีปอเมริกาใต้นั่นเอง
โดยเฉพาะประเทศบราซิลที่มีขนาดใหญ่และมีประชากรจำนวนมาก กำลังต้องการที่จะขยายเศรษฐกิจออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก แต่ยังขาดแคลนคนที่สามารถพูดและใช้ภาษาโปรตุเกสได้เป็นอย่างดี ถือเป็นข้อได้เปรียบและมีประโยชน์มากเพราะคนที่มีความรู้ด้านภาษาโปรตุเกสนี้มีน้อย แต่การเรียนรู้ภาษาโปรตุเกสต้องบอกเลยว่ายากกว่าภาษาสเปน แต่ก็ไม่ยากเท่ากับภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส ถือว่าเป็นอีกภาษาที่น่าสนใจมากๆ เลย
————————————————-
ที่มา : www.sprachcaffe.com