นร.ไทยหัวใจนักสู้ ป่วยเป็นมะเร็งระยะ 3 คว้าเหรียญทอง แข่งขันคณิตฯ โอลิมปิก

3 นักเรียนไทยสุดเก่ง จากโรงเรียนจินดามณี ที่ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันคณิศาสตร์โอลิมปิก นานาชาติสิงคโปร์ ครั้งที่ 3 ซึ่งก็ได้รับรางวัลกลับมา 2 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง และที่น่าปลาบปลื้มใจเป็นที่สุด ก็คือ “น้องสเตฟาน” หนึ่งในนักเรียนที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ เขาได้ป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะที่ 3 แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ต่อโรคที่เขาเป็น เพราะเขาได้นำกำลังใจที่จากผู้คนรอบข้างมาเป็นแรงผลักดันให้ตนเองได้เดินทางไปแข่งขันและก็สามารถคว้าเหรียญกลับมาได้สำเร็จ พร้อมทั้งนี้ น้องสเตฟาน ยังได้บอกถึงความฝันอันสูงสุดอีกด้วย คือการได้เป็นแพทย์เฉพาะทาง เพื่อรักษาโรคมะเร็ง

เก่งมาก! 3 นร.ไทย คว้าเหรียญ คณิตฯ โอลิมปิก

สำหรับ 3 นักเรียนโรงเรียนจินดามณี กรุงเพทฯ ที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันคณิศาสตร์โอลิมปิก นานาชาติสิงคโปร์ ครั้งที่ 3 มีดังต่อไปนี้

น้องซเหวิน หรือ ด.ช. อัธเศษฐ์ กนกวุฒิธำรง อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.5 ผู้ได้รับรางวัลเหรียญทองจากการแข่งขันประเภท Paper Test
ด.ช. สเตฟาน ควิ้นท อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 ผู้ได้รับรางวัลเหริยญทองจากการแข่งขันประเภท Maths Warriors
น้องมุก หรือ นางสาวมณิสา จิรพรสุวรรณ อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 ผู้ได้รับรางวัลเหรียญทองแดง จากการแข่งขันประเภท Paper Test

โดย น้องสเตฟาน ซึ่งกำลังป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะที่ 3 ได้กล่าวว่า ตนเองมีความชื่นชอบในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เพราะโตขึ้นมีความฝันที่อยากจะเป็นแพทย์รักษาคนไข้ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนยังชอบการเล่นกีฬาเทควันโด จนสามารถสอบเลื่อนขั้นได้ระดับสายดำแดง (เป็นขั้นสูงสุดของเด็กอายุไม่เกิน 14 ปี) และยังเคยตะเวนเดินสายไปแข่งขันคว้าแชมป์และรองแชมป์มาแล้วหลายสนามด้วยกัน

จนกระทั่ง รู้ตัวว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะที่ 3 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา ก็ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมาโดยตลอด แต่ยังมีกำลังใจที่ดีซึ่งได้รับจากคุณพ่อ-คุณแม่ คุณหมอ พยาบาล ครู และเพื่อน ๆ ที่ทำให้ตนเองมีแรงผลักดันในการฝึกฝนด้านวิชาคณิตศาสตร์ จนทำให้ประสบความสำเร็จได้ในที่สุด

นอกจากนี้ น้องสเตฟาน ยังได้เผยเทคนิคการเรียนเก่งอีกด้วยว่า จะไม่ท่องจำ แต่ต้องทำความเข้าใจ ตอนเรียนก็ต้องทำจิตใจให้สบาย ทำความเข้าใจในชั้นเรียนให้ได้มากที่สุด หากข้องใจหรือสงสัยให้ถามครูผู้สอนในทันที่ ซึ่งความเข้าใจในชั้นเรียนมีความสำคัญมาก ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นก่อนที่จะไปเรียนพิเศษ หรือหาความรู้ทางอินเทอร์เน็ต

ทางด้าน นางสุมาลี พลูสระคู อายุ 57 ปี คุณแม่ของน้องสเตฟาน ได้กล่าวว่า ตนและสามี นายแฮร์มัน ควิ้นท อายุ 57 ปี ชาวเยอรมัน มีน้องสเตฟานเป็นลูกชายคนเดียว ปัจจุบันครอบครัวทำธุรกิจด้านเครือข่ายไอที และได้ส่งให้น้องสเตฟานเข้าเรียนโรงเรียนแห่งนี้ตั้งแต่ชั้นอนุบาล โดยได้เห็นแววความฉลาดของลูกมาตั้งแต่เด็กๆ ดังนั้นจึงได้ส่งเสริมทั้งด้านกีฬาและวิชาการอย่างเต็มที่

กระทั่งเมื่อลูกเริ่มมีอาการป่วย โดยเริ่มแรก น้องสเตฟาน มีไข้และต่อมที่คอบวมโต จึงได้พาไปพบคุณหมอที่โรงเรียนพยาบาลศิริราช เมื่อคุณหมอวินิฉัยก็พบว่าลูกชายป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะที่ 3 ทำให้ตนเองกับสามีเป็นทุกข์มาก แต่สิ่งที่ให้ตนแปลกใจก็คือ น้องสเตฟานกลับไม่จิตตกกับภาวะร่างกายของตนเองเลย แต่เป็นกังวลในเรื่องของโอกาสในการเรียนหนังสือมากกว่า เมื่อตนเองเห็นดังนั้น จึงได้ให้อิสรภาพในการเรียนของลูกอย่างเต็มที่

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา น้องสเตฟาน ได้ผ่านการฉายแสงไปแล้ว 20 ครั้ง ทำเคมีบำบัดหรือคีโมไปอีก 6 ครั้ง คุณหมอผู้ทำการรักษายืนยันว่าน้องมีอาการดีขึ้นตามลำดับ โดยทางด้านครอบครัวก็ได้ดูแลในเรื่องโภชนาการและแบ่งเวลาพาลูกชายไปเดินออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ

หลังจากนี้ ทางคุณหมอจะนักอีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคม เพื่อรับการตรวจซีทีสแกน ก่อนจะนัดฟังผลความคืบหน้าด้านการรักษาในช่วงเดือนตุลาคมนี้ โดยคุณแม่เชื่อว่าลูกชายจะหายดี และจะพยายามสานฝันลูกชายให้เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งให้ได้

ขณะเดียวกัน นางวิธิตาม์ ตงเต๊า ผู้แทนชมรมแม่บ้านตำรวจนครบาลพร้อมคณะ ได้นำช่อดอกไม้ไปมอบให้แก่นักเรียนทั้ง 3 คน พร้อมทั้งยังได้ให้กำลังกับน้องสเตฟาน เพื่อต่อสู้กับโรคร้ายอีกต่อไปด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง

ที่มา : www.thairath.co.th