เรียกได้ว่ากำลังเป็นกระแสฮอตในโลกออนไลน์ในขณะนี้เลย หลังจากที่มีสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊กที่มีชื่อว่า Tikky CM Peo ได้โพสต์เล่าเกี่ยวกับเรื่องของคุณครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกำแพงเพชร ที่ได้ทำหารค้ำประกันเงินกู้ยืม กยศ. ให้กับนักเรียนกว่า 60 คน แต่มีนักเรียนที่ไม่ยอมชำระหนี้ตามที่ได้ทำข้อตกลงเอาไว้ถึง 30 กว่าคนเลยทีเดียว ทำให้มียอดที่ต้องชำระหนี้รวมกว่า 1 ล้านบาท ทำให้คุณครูท่านนี้ถูกยึดทรัพย์
กยศ. พร้อมช่วยเหลือครูค้ำประกันเงินกู้ หลังลูกศิษย์เบี้ยวหนี้
หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกมาก็ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก โดยภายในโพตส์มีการระบุข้อความว่า “ลูกศิษย์ ทรยศ ครู (เจาะลึก)” เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ครูวิภา (ขอสงวนนามสกุล) เป็นข้าราชการครูสอนในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในจังหวัดกำแพงเพชร มีกองทุน กยศ. (กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา) เปิดโอกาสให้นักเรียนได้กู้ยืมเพื่อใช้ในเรียนต่อ ด้วยระยะเวลาที่กระชั้นชิด และผู้ปกครองเดินทางมาโรงเรียนค่อนข้างลำบาก
ภาพจาก FB : Tikky CM Peo
ลูกศิษย์เบี้ยวหนี้ กยศ. ทำครูอ่วม…
ครูวิภา ได้อาสาที่จะเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ กยศ. (กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา) ให้กับนักเรียนจำนวนกว่า 60 คน หวังให้เด็กได้เรียนต่อ เรียนจบในชั้นสูง ๆ และมีอนาคตที่ดี
และเมื่อ 10 ปีผ่านไป (ในปี 2551) ครูวิภา ก็ปฏิบัติหน้าที่ในราชการอย่างเสียสละทุ่มเท แต่ในวันหนึ่งก็มีหนังสือจากศาลส่งมาให้ไปไกล่เกลี่ยการชำระหนี้ ครูวิภาในฐานะผู้ค้ำประกันก็ต้องไปให้การกับศาล นักเรียนบางส่วน ก็ชำระหนี้ตามที่ศาลสั่ง ครูวิภาก็คิดว่าเรื่องน่าจะจบ…
แต่เมื่อเวลาผ่านไป กลางเดือนกรกฎาคมมีเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี นำป้ายคำสั่งบังคับคดีมายึดบ้านและที่ดินของครูวิภา โดยในหนังสือมีใจความสำคัญว่า “บ้านและที่ดินถูกยึด ห้ามบุคคลเข้ามาดำเนินการใด ๆ” ซึ่งตัวครูก็ไม่ทราบมาก่อนว่าเหตุใดถึงต้องมายึดทรัพย์ ยึดที่ดิน ที่เป็นมรดกชิ้นสุดท้ายที่พ่อแม่มอบให้ก่อนตาย
เมื่อเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีก็ทราบความว่า ครูวิภาได้ค้ำประกันเงินกู้ กยศ. ให้กับนักเรียนเมื่อหลายปีก่อน และมีนักเรียนกว่า 30 คน เมื่อจบมาแล้ว ไม่ชำระหนี้กองทุน กยศ. มูลหนี้รวมทั้ง 30 คน เกือบหนึ่งล้าน รวมดอกเบี้ย ค่าปรับ มหาศาล
ทำให้ กยศ. ต้องยื่นฟ้องศาล จำนวน 30 คดี เมื่อไม่สามารถติดตามหนี้ได้จากผู้กู้ ก็ต้องไล่บี้กับผู้ค้ำประกัน ตอนนี้กรมบังคับคดีนำคำสั่งศาลตัดสินเพื่อยึดทรัพย์ผู้ค้ำประกันแล้ว 2 คดี ได้แก่ คดีที่ 1 สั่งยึดบ้านและที่ดิน คดีที่ 2 สั่งยึดที่ดิน และคดีที่ 3 กำลังจะตัดสินเร็ว ๆ นี้
ซึ่งครูวิภามีอสังหาริมทรัพย์ เพียง 2 อย่างและถูกยึดไปแล้ว หากคดีที่ 3 ตัดสิน ทรัพย์ชิ้นสุดท้ายนั่นตำแหน่งทางราชการ และถ้าคดีที่ 4 5 6 และคดีต่อไปไม่มีทรัพย์ให้ยึด ครูก็จะถูกฟ้องล้มละลาย ครูวิภาก็จะถือว่าขาดคุณสมบัติการเป็นข้าราชการ ผลก็คือให้ออกจากราชการ “นี่คือสิ่งที่ลูกศิษย์มอบให้ครูที่สอนเขามา… บ้าน ที่ดิน ตำแหน่งราชการ หายไปในพริบตา”
และเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา คุณครูวิภา ได้มาติดต่อ กยศ. เพื่อไกล่เกลี่ย และชำระหนี้แทนลูกศิษย์บางส่วน แต่มูลหนี้กว่าหนึ่งล้าน ครูจะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้แทนลูกศิษย์ได้หมด ที่น่าเจ็บใจที่สุด คือ เมื่อครูไปขอร้องให้ลูกศิษย์ไปจ่ายหนี้ กยศ. เพราะครูกำลังจะถูกยึดทรัพย์ ลูกศิษย์ยังมีหน้ามาบอกว่า “ครูก็ไปบอกศาลให้มายึดทรัพย์ผมสิ”
ครูสามารถติดต่อ กยศ. เพื่อดำเนินการช่วยเหลือ
หลังจากที่เรื่องดังกล่าวได้ถูกแชร์ต่อกันมาเรื่อย ๆ นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุน กยศ. ออกมาเปิดเผยวว่า กรณีดังกล่าวทาง กยศ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ขอให้ทางคุณครูท่านดังกล่าวติดต่อมายัง กยศ. เพื่อให้ กยศ. ดำเนินการช่วยเหลือต่อไป
ในส่วนที่คุณครูท่านนี้กังวลจะถูกฟ้องล้มละลาย และขาดคุณสมบัติการเป็นครูนั้น ระยะเวลาในการดำเนินคดีใช้เวลานาน อีกทั้งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการยึกทรัพย์ และขั้นตอนต่อไปคืการนำขายทอกตลาด ระหว่างนี้จะมีช่วงเวลาดำเนินการอยู่ และเมื่อทรัพย์ถูกขายเข้าตลาด จะมีการทำบัญชีรับจ่ายเพื่อหักล้างหนี้ คุณครูอาจจะไม่ถึงขั้นล้มละลาย หรือขาดคุณสมบัติการเป็นครู จึงขอให้ทางคุณครูติดต่อเข้ามาทาง กยศ. โดยด่วน
ทั้งนี้ อยากให้ผู้ค้ำประกันทุกคน ตรวจสอบสถานะของตนเองว่าสามารถค้ำประกันได้มากน้อยแค่ไหน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญาในลักษณะนี้…
ขอบคุณข้อมูลจาก FB : Tikky CM Peo, www.matichon.co.th
Written by : Toey
