kbu ความเชื่อ ม.เกษมบัณฑิต มกบ เรื่องน่ารู้

93 เรื่องน่าสนใจ รอบรั้วเกษมบัณฑิต (KBU)

Home / เรื่องเล่ามหาวิทยาลัย / 93 เรื่องน่าสนใจ รอบรั้วเกษมบัณฑิต (KBU)

มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต (Kasem Bundit University) เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2530 ในชื่อ “วิทยาลัยเกษมบัณฑิต” และเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยเมื่อ พ.ศ. 2535 ด้วยกันจ้า แต่ที่นี้ก็ยังมีเรื่องให้เราได้รู้กันอีกมากมายหลายเรื่องเลย ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง ความแตกต่างระหว่าวิทยาเขตทั้ง 2 ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง… นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่น่ารู้เกี่ยวกับคณะต่างๆ ในมหาวิทยาลัยอีกด้วย งั้นอย่ารอช้า! มากันจ้า

เรื่องน่าสนใจ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต

เรื่องทั่วไปที่น่าสนใจ

1. ม.เกษมบัณฑิต หรือ มกบ. แต่นักศึกษาชอบเรียกว่า “ม.กบ.” บางคนเรียก “มอเสม” ตั้งอยู่บนพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาล มีสนามฟุตบอล สนามตะกร้อ สนามเปตอง สนามวอลเล่บอล ที่กล่าวมาข้างต้นล้วนรวมอยู่ในสนามบาส ทำเลที่ตั้งอยู่ริม ถ.พัฒนาการตรงข้ามกับบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง (ซึ่งปิดกิจการไปแล้ว) มีรลเมล์ผ่านหน้ามหาลัยหลายสาย นับๆ แล้วก็ 5 สาย ได้แก่ สาย 11, 206, 133, 517, 92

2. มีอีกวิทยาเขตอยู่แถวๆ มีนบุรี บรรยากาศรอบๆ เป็นทุ่งนา เงียบสงบมาก

วิทยาเขตพัฒนาการ

3. รู้ไหมอาคาร 3 ม.เกษมพัฒนาการ มีลิฟท์อยู่ตัวหนึ่งน่ากลัวมากเยียบมันทีไรเป็นอันต้องร้อง (ลิฟท์มันร้องตลอดๆ อันนี้ก็ไม่รู่ว่าทำไมเหมือนกันนะ ทั้งที่บางทีก็ขึ้นไม่กี่คนเอง)

4. ขอแนะนำการมา ม.เกษมบัณฑิตพัฒนาการ วันที่ฝนตกกรุณาพกตังส์ค่าเรือโดยสารมาด้วย เพราะน้ำท่วมตลอดๆ เลย

5. นศ.ม.เกษม เขารวยกันทุกคน เพราะพวกเขาทานข้าวที KFC ทุกวัน (ชื่อโรงอาหารนะ)

6. หนุ่มวิศวะล้วนเป็นเด็กใต้ ค่อนข้างเซอจนถึงขั้นสกปรกกันเลยทีเดียว

7. หน้าม.เกษมวิทยาเขตพัฒนาการ มีทั้งร้านยา เซเว่น และก็มีหอใหม่ๆ ผุดขึ้นมาเพียบเลย

8. ม.เกษมทั้ง 2 วิทยาเขตมีทางเข้า-ออก แค่ประตูเดียวเท่านั่น

9. กีต้าร์ในห้อง Interior มันหายไปใหนประจำ เข้าไปใช้ ไม่เคยได้เล่น? อยากรู้จริงๆ นะเนี่ยว่ามันหายไปไหน?

10. ทางด้านการกีฬาที่นี่ มีนักกีฬาทีมชาติ และไม่ทีมชาติอย่างมากมาย จนคว้าเหรียญจากการแข่งขัน และได้อันดับต้นๆ หลายคนเลยทีเดียว ถือว่าเป็นม้ามืดของวงการกีฬาก็ว่าได้ค่ะ

11. เราจะเห็นน้ำพุเริงระบำเฉพาะวันสำคัญเท่านั้น วันปกติน้อยมากที่จะได้เห็นน้ำพุออกมาเริงระบำ

12. เวลาเรียนที่เขตพัฒนาการ บางช่วงอาจจะได้ยินเสียงขบวนรถไฟแล่นผ่าน (เนื่องจากใกล้ทางเดินรถไฟธรรมดา และรถไฟฟ้าแอร์พอตลิง์)

13. ที่พัฒนาการจะมีลำโพงเสียงตามสาย แต่ที่ร่มเกล้าไม่มีนะ

14. โรงอาหารที่พัฒนาการมีทีวีให้ชมระหว่างรับประทานอาหาร

15. เก้าอี้ในโรงอาหารของพัฒนาการมีสีส้มแสบตาหน้านั่งเชียวหละ ^^

16. ตึกอาคารเรียนเขตพัฒนาการ เมื่อคนภายนอกเข้ามาอาจเห็นเป็นตึกเรียนของสวนกุหลาบ (ยาวได้ใจ)

17. ในการขึ้นรถรับส่งของมหาลัยแต่ละครั้ง นักศึกษาทุกคนจะลุ้นว่าตัวเองจะได้ขึ้นรึป่าว มีที่นั่งพอรึป่าว (มันไม่พออะ ก็นักศึกษาเยอะ) บางทีคุณอาจต้องพึ่งแท๊กซี่ในเวลาเร่งด่วน

18. การเดินทางไปเรียนยังอีกเขตนึงจะใช้เวลาในการเดินทางทั้งสิ้น 30 นาที ถ้ารถไม่ติดนะคะ

19. ม.เกษมเขตพัฒนากา รจะอยู่ติดกับสถาบัน ไทย-ญี่ปุ่น แต่นักศึกษาม.เกษม ไม่ค่อยจะเห็นนักศึกษาไทย-ญี่ปุ่นเท่าไหร่นัก

20. การมาเรียนจะใช้ระบบการเรียกชื่อขานรับเหมือนสมัยวัยเด็ก “มาครับ / มาค่ะ”

21. ม.เกษมของเราก็มีอาจารย์แม่เช่นเดียวกัน ซึ่งลูกศิษย์ให้ความเคารพเป็นอย่างมาก

22. เพลงประจำมหาวิทยาลัยไม่มีการดาวน์โหลดให้ฟังกัน และน้อยครั้งที่เราจะได้ยินเสียงเพลงต้นฉบับที่บันทึกไว้นอกเสียจากงานวันรับปริญญาคุณจะได้ฟังเพลงประจำมหาวิทยาลัยต้นฉบับเป็นแน่นอน

23. หน้าประตูทางเข้า-ออก เขตพัฒนาการ จะมีอาจารย์สองท่านอยู่ คอยตรวจเครื่องแต่งกายอยู่

24. ห้องคอมฯ แต่ก่อนอยู่ตึก 2 ชั้น 4 ปัจจุบันถูกย้ายมา ตึก 3 ชั้น 3 ทางเดินไม่มีไฟ ติดหน้าต่างบานใหญ่ระหว่างทางเดิน และมืดมาก

25. อาจารย์ฝรั่งบางคนพูดไทยได้ ฟังได้ ฉะนั้น…อย่านินทาซึ่งๆ หน้าล่ะจ้า

26. พนักงานที่ทำงานนี่นี้ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เรียกติดปากกันว่า “แม่บ้าน”

27. ห้องเรียน 3 ประตู มักมีแอร์ 2 ตัว และจะเย็นแค่แอร์ตัวแรกหน้าห้องเท่านั้น!! แต่แอร์บางห้องเหมือนเปิดประชด หนาวโคตรๆ

28. เวลานั่งเรียนอยู่ ถ้าเสียงรถไฟมา อาจารย์จะหยุดพูด รอจนรถไฟไปก่อน

29. เด็กวิศวะ ชอบอยู่กันเป็นกลุ่ม ร้อยละ 0.5 ในกลุ่มจะหน้าตาดี (หาโคตรยาก)

30. พัฒนาการไม่มีสนามกีฬาใหญ่เท่าร่มเกล้า แต่เมื่อมีการแข่งกีฬาจะต้องให้รถที่จอดไว้ไปทางอื่น เพราะเขาให้สนามกีฬาทำที่จอดรถ

31. ห้องสมุดมี 3 ชั้น หนังสือส่วนใหญ่จะเก่า และไม่ค่อยมีคนยืม

32. เครื่องจับบาร์โค้ดมันดังจริงๆ นะ ถ้าถือหนังสือเดินโท่งๆ ออกไป เขาจะมองกันทั้งห้องสมุดเลยทีเดียวเชียว

33. ลิฟท์ตึกเฉลิมพระเกียรติ อย่ากดชั้น 5 และ 7 ถ้าไม่อยากเจอเรื่องสยองขวัญ

34. ลิฟท์ตึก 3 ค้างบ่อยโคตรๆ เวลาขึ้นต้องพกมือถือไว้ในมือด้วย

35. ห้องฟิตเนตที่พัฒนาการ อย่าให้ได้เดินผ่าน… บรรยากาศเหมือนห้องเก็บของ ที่ไร้สิ่งมีชีวิตมาก

36. ลิฟท์ตัวสุดท้ายของตึก 3 เค้าว่ากันว่า ใช้ขนศพลงมา!!

37. เมื่อมองลงมาจากตึก 3 ตึกเฉลิมพระเกียรติ ฝั่งซ้ายมือจะมีบ้านหลังใหญ่สวยสะดุดตา โดดเด่นเป็นตะง่านตั้งอยู่

38. หน้าลิฟท์ทุกตัว มักจะมีกระดาษแผ่นป้ายข่าวสารติดอยู่

39. มหาลัยเข้าเรียนด้วยเวลาโดยประมาณ 9 โมงเช้า ฉะนั้น เวลา 9.00-9.30 ของทุกวัน ลิฟท์จะคนเยอะมาก

40. ร้านกาแฟ มันติดป้ายใบปลิวซะหน้ากิน แต่เอาเข้าจริงๆ เป็นร้านเหมือนโกวเล้งกาแฟ ร้านนี้ตั้งอยู่ตรงเลยลิฟท์โซนแรกของตึก 3 เปิดเพลงได้มันส์มาก

41. นศ.ที่มาเรียนก่อน 9 โมงจะเข้าทางประตูหน้า สายกว่านั้นจะเข้าประตูถัดไป สายแบบหน้าด้าน ส่วนใหญ่จะเข้าทางประตูหลังสุด

42. หน้ามหาลัยมีมินิมาร์ท ซึ่งมีสินค้าขายราคาตกใจ…(แพงกว่าร้านทั่วไป)

43. ป้ายรถเมล์ข้างหน้าม. ถ้ามีคนจะโบก 206 ฟรี ให้ไปยืนรอขึ้นเกือบถึงทางเข้าไทย-ญีุ่ปุ่น

44. ถ้ามองจากตึก 3 จะสามารถเห็นเด็กไทย-ญี่ปุ่นเขาทำกิจกรรมหน้าเสาธงกันได้

45. เด็กวิศวะ ไม่ถูกกับเด็กสถาปัตย์ สองคณะนี้อยู่ตึกเดียวกัน

46. ห้องเน็ตที่นี่มี 2 ห้อง ห้องละประมาณ 50 เครื่อง เล่นได้ครั้งละ 1 ชม. บางครั้งใจดีให้ต่อชม.ได้

วิทยาเขตร่มเกล้า

47. ที่ร่มเกล้าตอนมืดๆ หลอนมาก ก็เล่นปิดไฟหมดทั้งชั้น เคยกดลิฟท์ไปชั้น 3 ตอน 2 ทุ่ม เปิดมา มองไม่เห็นไรเลย มืดมาก -*- (ห้องน้ำชาย.. รุ่นน้องเคยเจอผีด้วยแหละ)

48. เด็กเกษมส่วนใหญ่เป็นเด็กที่มาจากต่างจังหวัด เพราะฉะนั้น ม.เกษมเปรียบเสมือนฑูตวัฒนธรรมที่มีหลากหลายทางภาษาทำให้นักศึกษาที่นี่พูดได้หลายภาษา (เหนือ-อิสาน-ใต้)

49. ถ้าผ่านเข้ามาในมหาลัย จะเห็นนักศึกษาบางคนใส่ชุดสูทไม่ต้องตกใจ สังเกตที่กระดุมได้เลย (กระดุมสีทอง-เด็กการโรงแรม  กระดุมสีดำ-เด็กธุรกิจการบิน)

50. ที่ม.เกษมร่มเกล้า มีสายการการบินเป็นของตัวเองภายใต้ชื่อ “KBU airline” และยังมีห้องปฎิบัติให้เด็กการบินได้เรียนรู้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นห้องจำลองเครื่องบิน ภายในเหมือนจิง ห้องเช็คอิน ห้องสายพานลำเลียงกระเป๋า เป็นต้น

51. รถที่ผ่านหน้า ม.เกษมร่มเกล้ามากที่สุดได้แก่ รถไปมีนบุรีคันสีแดง

52. สถานที่ที่เด็กเกษมเขตร่มเกล้าไปกันบ่อยก็คือ เดอะมอลล์บางกะปิ และตะวันนา

53. การเรียนของที่นี่ค่อนข้างเข้มข้นเพราะเรียนจนสอบช้ากว่ามออื่นๆ ทำให้การปิดและเปิดภาคเรียนนั้นไม่ตรงกับที่มหาลัยอื่น

54. ม.เกษมร่มเกล้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอากาศบริสุทธฺ์ ไม่ต้องการมอลภาวะ เพราะมีบริเวณติดกับทุ่งนาอันเขียวขจี (สดชื่นจริงๆนะ)

55. ประตูห้องเรียนที่ร่มเกล้า ชั้น 7 ห้องอะไรไม่ทราบ เปิดทีต้องระวัง เพราะอาจเด้งกลับมาตีหน้าคนเข้าทีหลังได้ (ของเขาแรงจริงๆ)

56. ในการรับปริญญาของม.เกษม จะใช้ชื่อว่า “พิธีประสาทปริญญา”

57. นักศึกษาแฟชั่นดีไซต์จะแต่งตัวผิดแปลกไปจากนักศึกษาปกติ เพราะนั่นแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์ รู้ทันทีว่าเป็นเด็กแฟชั่นดีไซต์

58. ที่อาคารกีฬามีสนามโบลิ่ง (ซึ่งถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยแห่งเดียวที่มีสนามโบลิ่งอยู่ในอาคารของมหาวิทยาลัย และยังมีสระว่ายน้ำที่ได้มาตรฐาน (เป็นสถานที่ถ่ายทำเอ็มวีหลายครั้งแล้ว) ถ้าจะมาว่ายต้องใส่ชุดว่ายน้ำเท่านั้นนะจ๊ะ

59. ม.เกษมร่มเกล้า ยังถือได้ว่ามีกองถ่ายละคร เอ็มวี มาถ่ายทำอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นเขตใหม่มั้ง (ทุกอย่างจึงดูสวยและสะอาดตา)

60. ที่ม.เกษมจะไม่มีตึกเรียนแยกตามคณะ แต่เราใช้อาคารที่เราเรียกว่าอาคารเรียนรวม (กัน) จึงไม่แปลกที่เราจะรู้จักกันต่างคณะ

61. ตอนเย็นๆ ที่ร่มเกล้าเราจะเห็นเด็กฮิปออกมาวาดลวดลายเล่นสเก็ตบอต (อย่างเท่)

62. เด็กปี 1 ของเกษมร่มเกล้า ส่วนใหญ่จะพักอยู่หอใน (ก่อนที่จะย้ายออกมากันหลังจากที่รู้ทุกซอกทุกมุมในย่านนั้นแล้ว)

63. ที่เขตร่มเกล้า ถือว่ามีลมแรงมาก (แรงจนที่จานข้าวในโรงอาหารบินได้เลยทีเดียว) ไม่เชื่อมาลองดู >>> (คอนเฟิร์ม .. ขนาดนั่งกินข้าวอยู่ ขวดน้ำยังปลิวได้)

64. ลิฟท์ที่อยู่ฝั่งโรงอาหารของร่มเกล้า เมื่อสังเกตดีๆ จะไม่มีกระจกติดไว้เหมือนลิฟท์ตัวอื่นๆ

65. แผนผังของม.เกษมร่มเกล้า เป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า (เพราะพื้นที่ยาวไกลสุดลูกหูลูกตา แต่ไม่กว้าง)

66. ถ้าต้องการลดความอ้วน เชิญเดินจากหน้าม. ถึงหอใน รับรองได้ผลชัวร์

67. การแข่งขันฟุตบอลบางนัดก็มาจัดแข่งที่สนามกีฬาของเกษมบัณฑิตร่มเกล่า

68. ในช่วงเย็นๆ เราจะเห็นนักฟุตบอลมาเตะกัน เหมือนทีมชาติยุโรปฝึกซ้อมเลยทีเดียว

69. รถที่จะเลี้ยวเข้าม.เกษม ไม่สามารถเลี้ยวซ้ายได้ (เปิดให้เลี้ยวขวาได้อย่างเดียว ทางซ้ายไม่มีทางไป)

70. ริมถนนนอกมหาลัยเขตร่มเกล้าตลอดแนวส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายต้นไม้ประดับต่างๆ

71. นักศึกษาร่มเกล้าจะได้เห็นเครื่องบินบินอยู่ตลอด… เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ถ้ามองจากหอในจะเห็นสนามบินสุวรรณภูมิเลยทีเดียว (กลางคืนสวยมาก)

72. บริเวณหน้ามอของร่มเกล้าตรงกับจุดกลับรถพอดิบพอดี

73. เราจะเห็นนักศึกษาของที่นี่บางคนใส่เสื้อกันหนาวมา เนื่องจากห้องเรียนแอร์เย็นจนถึงขีดสุด เสมือนหลุดเข้าไปยังแถบขั้วโลกเหนือกันเลยทีเดียว

74. รถที่ให้บริการรับส่งระหว่างหอในกับอาคารเรียนรูปร่างชั่งคล้ายรถซาฟารี จนนักศึกษาเรียกว่า “รถซาฟารี”

75. บริเวณกลางของโรงอาหารร่มเกล้านอกจากจะมีที่นั่งสไตล์ยุโรปแล้ว เมื่อเงยหน้าขึ้นไปจะเห็นท้ัองฟ้า (ซึ่งเป็นมหาลัยหนึ่งเดียว (รึป่าว) ที่ตรงกลางของอาคารไม่มีหลังคาคลุม) แต่ไม่ดีตอนฝนตกเป็นแน่ เพราะจะไม่มีที่นั่งรับประทานอาหารแบบที่นั่งสไตล์ยุโรป

76. นักศึกษาธุรกิจการบินคณะเดียวเท่านั้นที่มีตุ้งติ้งเป็นรูปยานพาหนะ นั่นก็คือ “เครื่องบิน”

77. เนคไทของมหาลัยไม่ได้เรียวยาวเหมือนสถาบันอื่น

78. ไม่ใช่เฉพาะนักศึกษาชายเท่านั้นที่ผูกเนคไท ยังมีนักศึกษาที่เรียนการโรงแรมซึ่งเป็นผู้หญิงต้องผูกเนคไทของมหาลัยเช่นเดียวกัน

79. ที่อาคารกีฬามีที่จอดรถ แต่กลับไม่มีรถขึ้นไปจอด ส่วนมากไปจอดที่ใต้ต้นไม้หรือรอบๆ ฟุตบาทในมหาลัยแทน

80. ในบางครั้งเราจะได้เห็นท่านรองอธิการหรือผู้ใหญ่ของมหาลัยเขตร่มเกล้า มานั่งรับประทานอาหารกับนักศึกษาด้วย (ซึ่งบางทีนักศึกษาอาจไม่ทราบว่าเป็นใคร)

81. การลงทะเบียนเรียนใช้ระบบลงทะเบียนผ่าน INTERNET เท่านั้น

82. เมื่อเข้าห้องสอบนักศึกษามักจะยืนนับแถวนั่ง และคนที่นั่งสอบข้างๆ จะไม่ใช่คนในคณะเดียวกัน (เพราะต้องนั่งสลับแถวกัน..ป้องกันการทุจริต)

83. ในการสอบแต่ละครั้งนักศึกษาจะเมื่อยมือในช่วงให้ฝนชื่อ และรหัสนักศึกษา และนักศึกษาปี 1 จะมีปัญหาเกี่ยวกับการเขียนข้อความต่างๆ บนกระดาษคำตอบ เนื่องด้วยกระดาษคำตอบเป็นภาษาอังกฤษ (มึนในช่วงเทอมแรก หลังจากนั้นก็สบาย เพราะรู้ว่าต้องกรอกอะไรบ้าง)

84. เมื่อมีการขออณุญาตออกไปห้องสุขาในเวลาสอบ จะมีเจ้าหน้าที่คอยติดตามอย่างใกล้ชิด

85. การสอบแทบทุกครั้งต้องมีคนลุกตามคนแรกมาเป็นขบวนเสมอๆ (เนื่องจากไม่กล้าส่งก่อน)

86. มีกฎห้ามนักศึกษาชายธุรกิจการบินไว้ผมยาวเป็นทรงโงกุน เนื่องจากใส่ชุดสูทจะไม่สุภาพ ห้ามโกรกหรือทำสีผมเป็นสีฉูดฉาด (แต่เราก็ยังเห็นกันอยู่)

87. คณะที่มีนักศึกษามากที่สุดคือ คณะศิลปศาสตร์ คณะอื่นรวมกันยังได้จำนวนนักศึกษาไม่เท่ากับคณะศิลปศาสตร์เลยนะ

88. การลงทะเบียนเรียนต้องให้ อ.เป็นผู้ปลดล็อกให้ไม่งั้นลงทะเบียนเรียนไม่ได้นะ

89. คณะวิศวะส่วนใหญ่เรียนที่เขตพัฒนาการ แต่อีกไม่ช้าตึกวิศวะเสร็จเมื่อไหร่ก็คงได้เรียนที่ร่มเกล้าเป็นแน่แท้ >>> (เด็กวิศวะคอมฯ ย้ายมาร่มเกล้าแล้วจ๊า)

90. ชุดสูทธของนักศึกษาธุรกิจการบินดันไปคล้ายกับเครื่องแบบพนักงานเก็บเงินบนรถ ปอ8.ซะงั้น

91. รูปในบัตรนักศึกษาจะแตกต่างจากตัวจริงมากทำให้หลายคนไม่กล้าโชว์บัตรนักศึกษาให้ผู้อื่นดู

92. หน้ามหาลัยมีร้านกาแฟที่เสียงดังตั้งอยู่ เปิดตั้งแต่ตี 5 ยัน 5 โมงเย็น (หวานมันปั่นละเอียด)

93. มีร้านเครื่องสำอาง ร้านเจ้บี ใจดีมว้ากกกก ขายของถูกสุดๆ ปรึกษาได้ทุกเรื่องจ้า

ที่มาจาก : http://th.uncyclopedia.info/wiki/ (โพสต์เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2557)

บทความแนะนำ