สวัสดีค่ะ วันนี้พี่นิวจะมาเล่าเรื่องทริปสุดมันส์จากประสบการณ์ตรงที่เคยเข้าร่วมโครงการ Work and Travel in the US มานะคะ น้องๆ ทุกคนที่กำลังอ่านอยู่อาจจะกำลังคิดว่าโครงการนี้ ไปทำไม ไปแล้วได้อะไรบ้าง จริงๆ แล้ว แล้วพอไปถึงเราจะ settle down ที่อเมริกาได้อย่างไร แล้วก็ที่สำคัญจะหาเงินมาคืนคุณพ่อคุณแม่ได้ยังไงไปแค่ 3-4 เดือนเอง!
มาถึง USA แล้ว ต้องทำอะไรบ้าง 2 อาทิตย์แรก?
ส่วนตัวพี่แล้ว (ขอเล่าย้อนไปประมาณสิบปีที่แล้วได้ 555) ตอนที่ตัดสินใจไปนี่คือบอกตรงๆ อยากได้เงินและก็อยากไปเมืองนอกเพื่อไปหาประสบการณ์และพัฒนาภาษาอังกฤษ สำหรับเด็กที่เรียนเอกภาษาหรือแนวสายมนุษยศาสตร์ การโรงแรมเองส่วนใหญ่ก็คิดว่า จบมาถ้ามีภาษาอังกฤษที่ดีก็จะช่วยให้เราหางานง่ายขึ้นด้วยใช่ไหมล่ะ
พี่นิวเคยได้ยินจากพี่คนนู้นคนนี้ว่าไปแล้วนี่ตั้งใจหางานสอง (second job) หรือแม้กระทั่งงานสาม (third job) ได้ด้วยนะ รับรองรวยแน่นอน แถมยังมีการแนะนำด้วยว่างานไหนดี เงินเยอะ อะไรยังไง ตอนนั้นตาพี่งี้กลายเป็นตัวดอลล่าร์เลยทีเดียว! \($ o $)/ ดังนั้นพี่ก็เลยจะมาเล่าประสบการณ์การไปโครงการนี้ให้น้องๆ ที่สนใจได้อ่านและเอาไปพิจารณาว่า เราสมควรไปไหม และคาดหวังอะไรจาดโครงการนี้ได้บ้างค่ะ
สำหรับตอนแรก (เพราะว่าพี่ไปมาสองครั้งแล้ว .. แต่ละครั้งก็ อืมมมม….บอกเลยว่าคนละแนวเลยทีเดียว) พี่จะเล่าถึงประสบการณ์ตอนไปถึงช่วงสองอาทิตย์แรกก่อนเลยค่ะ ในสองอาทิตย์แรกนั้นพี่อยากให้น้องๆ ทุกคนที่ตกลงตัดสินใจไปโครงการนี้แล้วเตรียมใจและสิ่งเหล่านี้ไว้ค่ะ
3 สิ่งที่ต้องเตรียมตัว-เตรียมใจ
1. เตรียม Pocket Money
อาจจะอ่านแล้วแบบ เอ่อพี่คะ แน่สิต้องเอาเงินไปสิ ไม่งั้นจะเอาอะไรกินใช่ไหมคะ คือจริงๆ แล้วที่พี่จะบอกและเน้นย้ำ คือเรื่องของจำนวนเงินด้วยค่ะ เพราะตอนที่พี่ไปเพื่อนพี่บางคนพกเงินไปไม่พอ กว่าจะได้เงินจากการทำงานก้อนแรกหรือที่เราเรียกว่า paycheck ใบแรกเนี่ยะก็อาจจะปาเข้าไป 2-3 อาทิตย์เลยก็ได้นะ ดีไม่ดีอาจจะเป็นเดือน ทางที่ดีทำตามคำแนะนำของเอเจนท์ที่เค้าแจ้ง และอาจจะเอาไปเผื่ออีกนิดหน่อยก็ดีค่ะ (เผื่อเพื่อนยืม ฮ่าๆ)
พอเราไปถึงส่วนใหญ่ก็จะมีคนที่เค้าเรียกกันว่า Contractor (หรือพ่อค้าคนกลางถ้าแปลตรงๆอ่ะนะ) มารับเราที่สนามบิน พอเราไปบ้านพัก แล้วส่วนใหญ่บ้านนี่ก็จะจ่ายเป็นแบบอาทิตย์หรือต่อเดือน จะได้จ่ายสดทันทีตอนเข้าบ้านเลยนะคะ แล้วแต่ว่าบ้านดีไม่ดียังไง เสร็จแล้วถ้ามีเวลาเค้าก็พาเราแวะไปดูที่ทำงาน ให้เราได้กะระยะทางและประเมินว่าจะเดินทางไปที่ทำงานอย่างไร ถ้าเราไปเมืองที่แบบเดินทางโดยจักรยานได้จะดีมากกกกกก เพราะว่าเราจะประหยัดไปเยอะ แถมได้ออกกำลังกายด้วยจ้า นอกจากนี้ก็ต้องเอาเงินไปซื้ออาหารนะคะ อย่าลืมเราต้องใช้เงินก้อนนี้ประทังชีวิตจนกว่าจะได้เงินค่าจ้างมา
2. อย่าคาดหวังจนเกินไป
อยากบอกน้องๆ ว่าอันนี้สำคัญมาก โดยเฉพาะน้องๆ ที่ไปครั้งแรก การไปโครงการ Work and Travel นี่เราไม่ได้ไปเที่ยวเป็นหลักนะคะ (คือมันได้เที่ยวด้วยก็จริง) แต่ตามชื่อโครงการค่ะ คือเราไปทำงานด้วย แถมทำงานเป็นหลักด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นอย่าได้หวังว่าชีวิตจะสบายมีเจ้าหน้าที่ที่นู่นมาช่วยทุกอย่าง การที่เราจะอยู่ได้จบจนโครงการพี่บอกเลยว่าต้อง สู้ อดทน และมีทัศนคติที่ดี พร้อมเรียนรู้และปรับตัวกับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่อเมริกา
และนอกจากนี้น้องๆ ค่ะ พี่อยากบอกว่า ไปถึงแล้วไม่ใช่วันต่อไปได้เริ่มงานเลยนะ แต่ละงานมันก็มีขบวนการของมัน ตอนพี่ไปได้เริ่มทำตอนอาทิตย์ที่สองได้ เพราะว่าตอนเราไปตอนแรกเค้าก็พาเราไปที่ทำงานไปเจอผู้จัดการของห้างร้านที่เราจะไปทำ อย่างที่พี่ไปเค้ามีสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษอีกที แล้วก็มีให้เราทำเทรนนิ่ง ตรวจยาเสพติดเราด้วย เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องเอกสาร ที่นานหน่อยก็ Social Security Card เค้าจะพาเราไปทำเพื่อให้เราสามารถทำงานในอเมริกาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถไปเปิดแบงค์ รับเงินเป็น Paycheck ไปขึ้นเงินได้นะคะ
3. ปรับตัวให้ได้ อย่าคิดมาก คิดเล็กคิดน้อย
ข้อนี้พี่ว่าสำคัญที่สุดเลยคะ ยกตัวอย่างตอนที่พี่ไปกับเพื่อน เพื่อนพี่นี่บ่นๆๆๆ ตลอดเวลาว่างานไม่ดี ได้ทอดไก่น้ำมันกระเด็นใส่ ต้องยกของนู่นนี่ คือถ้ามีเพื่อนแบบนี้อย่าไปด้วยกันนะ เพราะว่ามันจะทำให้เรารู้สึกแย่ไปด้วยและอยากกลับบ้าน (เพื่อนพี่คนนี้กลับบ้านก่อนจบโครงการด้วยค่ะ แล้วก็ลากเพื่อนอีกคนกลับไปด้วย) เราต้องปรับทัศตคติ ทำงานหนักเอาเบาสู้ สนุกไปกับมันนะคะ พยายามอย่าคิดเปรียบเทียบว่า เฮ้ยทำไมเพื่อนได้ชั่วโมงมากกว่า หรือค่าแรงเยอะกว่าเรา ทำไมเจ้านายเพื่อนใจดี ของเราใจร้าย
ทำไมๆๆๆๆ ยิ่งคิดยิ่งเครียดยิ่งปวดหัวค่ะ พยายามคิดในแง่ดี และหาเพื่อนชาวต่างชาติที่ทำงาน ให้เค้าพาไปเที่ยวหาประสบการณ์และเรียนรู้ภาษา วัฒนธรรมของคนอเมริกากันค่ะสุดท้ายโครงการนี้จะสนุกมากกกก
เดี๋ยวตอนหน้าพี่จะมาเล่าว่าที่ทำงานเป็นอย่างไร และเราควรเริ่มหา Second Job ตอนไหน และหาอย่างไรนะคะ…. อย่าลืมมาติดตามกันนะจ๊ะ
ส่วนใครที่อยากสนใจไปเรียนต่อต่างประเทศ ก็ติดต่อทีมงาน Tony Education ได้นะคะ
ที่ Facebook Page: Tony Education หรือ Line ID: ton_chavanit ค่ะ
ม้วนเดียวเก็ท Do you ต่างจาก Have you แบบนี้เอง!!
บทความที่น่าสนใจ
