ช่วงเปิดเทอมสู่การทำกิจกรรมเฟรชชี่หน้าใหม่แบบต่อเนื่อง เลยอยากขอพาไปแนะนำคณะวนศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีกิจกรรมรับน้องหน้าใหม่ที่เข้มข้นสุดใจในม.เกษตรศาสตร์ ด้วยสองดาวเดือน จุย-สลิลทิพย์ เพื่อนฝูง กับเบลล์-ศิวศิล เล็กมาก นิสิตรุ่นใหม่นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม กับประสบการณ์สุดหินและฮาที่ทั้งคู่ได้เจอมา
จุย-เบลล์ ดาวเดือนหน้าใสคณะวนศาสตร์ เกษตรฯ
จากเหนือสุด ใต้สุด ลงมาเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมภาคกลาง
จุย : เป็นคนจังหวัดแพร่ค่ะ ที่บ้านมีธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับการแปรรูปไม้ ก็เลยสนใจอยากเรียนต่อทางด้านนี้ เพื่อจะได้เอาความรู้ไปช่วยที่บ้าน
เบลล์ : ผมมาจากพังงา ก็สนใจงานทางด้านป่าไม้ คิดว่าตอนนี้ป่าไม้ของเราเหลือไม่ถึง 40% แล้ว ก็อยากจะอนุรักษ์ป่าไม้ให้อยู่กับประเทศไทยต่อไป ซึ่งคณะวนศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ก็เป็นที่เดียวที่สอนด้านนี้ในประเทศไทยด้วยครับ
ด่านทดสอบสมรรถภาพสุดหินก่อนเข้าไปเรียน
จุย : ก่อนเข้าจะมีสอบสัมภาษณ์ แล้วก็ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย เพื่อให้ผ่านเกณฑ์ของคณะ ทั้งการวิ่งแล้วก็การยืดหยุ่นร่างกาย อย่างความอ่อนตัว การยืดตัว ซิทอัพ เพื่อวอร์มร่างกายก่อนวิ่ง ก็ต้องไปวิ่งที่สนามอินทรีย์ระยะทาง 2.4 กิโลเมตร แต่เวลาผู้หญิงก็จะมากกว่าผู้ชายหน่อย สำหรับหนูปกติไม่ได้เล่นกีฬาอะไรเลย (หัวเราะ) ก็มีเหนื่อยบ้างตอนแรก แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ ส่วนเบลล์เป็นนักกีฬาฟุตบอลอยู่แล้ว ก็เลยผ่านสบายๆ
ด่านรับน้องสุดเข้มข้นที่ได้เจอ
จุย : ที่นี่จะมีประเพณีเด่นของคณะ คือ การวิ่งระยะทาง 12 กิโลเมตรของชั้นปี 1 ซึ่งทุกคนต้องเข้าร่วมในวันที่ 8 ตุลาคมนี้ค่ะ แต่ก่อนหน้านั้นก็จะมีเข้าค่ายรับน้อง ให้ปลูกต้นไม้กับเพื่อนร่วมรุ่น แล้วก็มีฐานกิจกรรมต่างๆ เพื่อฝึกให้เรามีระเบียบวินัย มีความสามัคคีกัน ที่มีกิจกรรมรับน้องที่เข้มข้น เพราะการทำงานในสายนี้ค่อนข้างลำบาก จากที่พี่ๆ ได้มาเล่าให้ฟังอย่างต้องมีไปฝึกงานในป่า เดินขึ้นเขา ก็ต้องฝึกจริงๆ ไม่ได้ไปเที่ยวนะ การรับน้องก็เลยถือเป็นการฝึกความอดทนของพวกเรา เป็นการเตรียมพร้อมของร่างกาย ก่อนที่จะไปเจอกับการทำงานจริงๆ ค่ะ
ด่านสุดท้าย..มาเป็นเด็กหอกับมอใหม่และเพื่อนใหม่
จุย : หนูต้องมาอยู่หอในค่ะ ตอนแรกมายังไม่ชินกับสถานที่ ก็ท้อและเหงาเหมือนกัน แต่พออยู่ไปเรื่อยๆ ก็ได้รู้จักพี่ๆ เพื่อนใหม่มากขึ้น ที่หอจะให้พักห้องหนึ่งสี่คนคละชั้นปีกันไป พี่ๆ ก็จะคอยไปเลี้ยงข้าว ทำอะไรด้วยกันตลอด หลังๆ ก็เริ่มตื่นเต้น ได้เปิดหูเปิดตา กิจกรรมที่หอก็มีหลายอย่าง ที่ทำอยู่ตอนนี้ยังไม่จบกิจกรรมก็จะเป็น FIRST DATE ที่ให้หอหญิงกับหอชายได้มาทำความรู้จักกัน เขาก็จะจับกันเป็นคู่ๆ แล้วก็ให้เป็นเหมือนคู่เดท ที่ไปไหนมาไหนด้วยกันเกือบ 3 เดือน อารมณ์แบบบั้ดดี้ คอยช่วยเหลือกัน ก็สนุกดีค่ะ ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ต่างคณะ คู่ของหนูก็ค่อนข้างกวนๆ แต่ก็โอเคน่ารัก(หัวเราะ) แล้วอีกอย่างคือผู้ชายของวนศาสตร์จะต้องคอยดูแลผู้หญิง ไปรับไปส่งที่หอ ห้ามผู้หญิงเดินคนเดียว เพราะม.เกษตรศาสตร์ก็มีมิจฉาชีพค่อนข้างเยอะ ยิ่งดึกๆ ก็อันตราย ทำให้รู้สึกปลอดภัย แถมได้มิตรภาพใหม่ๆ เพิ่มขึ้นด้วย
เข้ามาสู่การเรียนวนศาสตร์เบื้องต้น
จุย : ตอนนี้จะเน้นความรู้เกี่ยวทรัพยากรต่างๆ เป็นวนศาสตร์เบื้องต้น ก็ถือเป็นความรู้ใหม่ๆ ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน สำหรับหนูอยากเรียนสาขาการจัดการลุ่มน้ำและสิ่งแวดล้อม เพราะว่าจังหวัดที่อยู่ก็มีปัญหาเกี่ยวกับภูเขาหัวโล้น เลยอยากจะนำความรู้ด้านนี้มาพัฒนาแก้ไขภาคของเราด้วย
เบลล์ : เข้ามาต้องปรับตัวจากม.ปลายพอสมควร เพราะตอนมัธยมจะมีอาจารย์คอยเตือนตลอด แต่ที่มหา’ลัยต้องรับผิดชอบตัวเองมากขึ้น แล้วก็ต้องอ่านหนังสือจำศัพท์ต่างๆ ที่มีเพิ่มมากขึ้น ส่วนตัวผมสนใจสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพป่าไม้ เกี่ยวกับอุทยานสัตว์ป่า เพราะค่อนข้างผูกพันกับอุทยานป่าไม้มาตั้งแต่เด็ก
ความเป๊ะเป็นเอกลักษณ์สไตล์เด็กวนศาสตร์ เกษตรฯ
จุย : ผู้หญิงคณะนี้จะค่อนข้างห้าวๆ แข็งแรง นิสัยป่าเถื่อนคล้ายๆ ผู้ชาย (หัวเราะ) มีมุมอ่อนโยนบ้าง แต่จิตใจแข็งแกร่ง (ฮา) ในกลุ่มหนูมี 6-7 คน ก็มีนัดติวกันที่หอบ้าง แล้วก็นัดซ้อมวิ่งกัน แบบซ้อมวิ่งจริงจัง ซ้อมกันเกือบทุกวัน วันนี้อาจจะ 10 รอบใน 20 นาที พรุ่งนี้อาจจะเพิ่มรอบขึ้น แล้วแต่ร่างกายของแต่ละคน คือถ้าอยากเจอเด็กวนศาสตร์ เจอได้ที่สนามอินทรีย์เลยค่ะ ถ้าให้นิยามสาววนศาสตร์ คงเป็น “สวยและถึก” เลย เพราะอย่างที่เห็นต้องแข็งแรงจริงๆ แล้วทั้งผู้หญิงผู้ชายคณะนี้ใครมองก็รู้ว่าเด็กวนศาสตร์นะ อย่างเรื่องการถือแฟ้ม การวางตัว บุคลิก อย่างผู้ชายต้องเดินกับผู้หญิง แล้วก็ต้องเดินนอกถนน ให้ผู้หญิงเดินด้านใน เหมือนเป็นการดูแลกันและกัน คำพูดติดปากของพวกเราก็คงจะเป็น “อย่าแกว่งแฟ้ม” เพราะรุ่นพี่จะคอยเตือนคำนี้กับพวกเราบ่อยๆ
รอนักอนุรักษ์รุ่นใหม่เข้ามาแทนที่
จุย-เบลล์ : ปัจจุบันทรัพยากรมีน้อยลงแล้ว ถ้าหากไม่มีคณะวนศาสตร์ แล้วใครจะมาช่วยดูแลทรัพยากรของเราล่ะ เพราะทรัพยากรป่าไม้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก ก็เลยอยากให้น้องๆ ที่มีใจรักในป่าไม้ แต่ไม่ใช่ป่าไม้เดียวกันนะ (หัวเราะ) รักโลก สามารถเข้ามาศึกษาได้ เพราะถ้าไม่มีคนเข้ามาในคณะ ไม่มีใครสนใจดูแลรักษา โลกของเราก็จะทรุดโทรมไปเรื่อยๆ ก็อยากเชิญชวนให้น้องๆ เข้ามาเรียนกัน เข้ามาแล้วน้องๆ จะได้ประสบการณ์หลายอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน และมันจะสอนให้เราเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบขึ้น
ตามดูคอลัมน์ about campus ได้ที่นิตยสาร Campus Star No.41
www.facebook.com/campusstars
