ทุนการศึกษา ทุนพระราชทาน ในหลวง ร.10

เรื่องน่ารู้ โครงการทุนการศึกษาพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 10

Home / วาไรตี้ / เรื่องน่ารู้ โครงการทุนการศึกษาพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 10

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 10  ทรงตระหนักในคุณค่าความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศให้มีคุณภาพด้วยการให้การศึกษา เพราะการศึกษาจะสร้างโอกาสให้ได้เรียนรู้วิชาการความรู้ต่างๆ ที่จะสามารถนำมาใช้ประกอบอาชีพ พัฒนาตนเองให้มีความรู้ความสามารถ อันเป็นประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว สังคมทตลอดจนประเทศชาติซึ่งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ให้สนองเบื้องพระยุคลบาทร่วมปฏิบัติงานใน “โครงการทุนการศึกษาพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร” นำมาซึ่งความปลื้มปิติแก่คณะผู้บริหารและข้าราชการของ สศช. อย่างหาที่สุดมิได้

เรื่องน่ารู้ โครงการทุนการศึกษาพระราชทาน

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 10)  มีพระราชปณิธานที่มุ่งมั่นจะสร้างโอกาสให้กับเยาวชนที่จะเติบโตเป็นกำลังสำคัญของชาติ โดยมีพระราชดำริให้นำพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ และทรัพย์จากผู้บริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนที่ยากจน ได้มีโอกาสศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทรงพระราชดำริให้จัดทำ “โครงการทุนการศึกษา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2552 และต่อมาทรงพระราชดำริให้จัดตั้ง “มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” (พระนามก่อนขึ้นทรงราชย์) หรือ ม.ท.ศ. เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ทรงเป็นองค์ประธานกรรมการ ม.ท.ศ. พระองค์ทรงให้นำโครงการทุนการศึกษาฯ มาดำเนินการภายใต้ ม.ท.ศ. มีกลไก คณะกรรมการ ม.ท.ศ. ซึ่งทรงเป็นองค์ประธานกรรมการ มีคณะอนุกรรมการ โดยความร่วมมือของสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ฯ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนงานให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์ ที่ ม.ท.ศ. ที่มุ่งเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชนที่เรียนดี ขยันหมั่นเพียร ประพฤติดี มีคุณธรรม และฐานะยากจน ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคง

โดยสนับสนุนทุนการศึกษาแก่เยาวชนที่กำลังจะจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีโอกาศศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายไปจนจบปริญญาตรีหรือเทียบเท่าในสาขาวิชาที่สอดคล้องกับความรู้ความสามารถและความต้องการของผู้เรียนโดยไม่มีภาระผูกพันต้องใช้ทุนคืนและเมื่อจบการศึกษาจะเปิดโอกาสให้เข้าทำงานเป็นข้าราชบริพารในพระองค์ฯ ตามความสมัครใจ

เกร็ดน่ารู้ ของโครงการทุนการศึกษาพระราชทาน

พระราชทานหลักการจัดสรรทุนพระราชทาน ซึ่งในการดำเนินงานโครงการทุนฯ พระองค์พระราชทานหลักการ ให้กระจายทุนครบในทุกจังหวัด และดำเนินการด้วยการแสวงหา คัดเลือก คัดสรร และกลั่นกรอง จนได้ผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้ารับพระราชทานทุน และทรงเน้นย้ำว่า “เมื่อทำโครงการมาแล้ว จำเป็นต้องศึกษา ติดตาม และพัฒนาแผนในการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง การทำงานที่ได้ผล ต้องศึกษาข้อมูล มีการปรับแผนให้ทันสมัย และมีความใส่ใจที่จะทำงานต่อเนื่อง…”

คณะกรรมการมูลนิธิฯ และคณะกรรมการบริหารจัดการทุนพระราชทานได้น้อมรับพระราชดำริ กำหนดหลักเกณฑ์การพระราชทานทุนและวิธีการคัดเลือกคัดสรร และกลั่นกรองนักเรียนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมโดยประสานความร่วมมือกับคณะกรรมการระดับจังหวัดซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเพื่อแสวงหาคัดเลือกคัดสรร และกลั่นกรองจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ และมีกระบวนการสอบทานอย่างรอบคอบ จนได้ผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ จังหวัดละ ๒ รายต่อปี เป็นชายและหญิงเท่าๆ กัน รับทุนพระราชทานในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ทุนละ 18,000 บาท ต่อปีในสายสามัญ และทุนละ 22,000 บาทต่อปี ในสายอาชีพต่อเนื่องไปจนจบปริญญาตรีหรือเทียบเท่า โดยจะครอบคลุมทั้งค่าเรียน ค่าหอพักตามที่จ่ายจริง สำหรับค่าครองชีพ ค่าหนังสืออุปกรณ์การเรียนจัดสรรให้เท่ากัน 48,000 บาทต่อคนต่อปี

นักเรียนทุนพระราชทานทุกคนล้วนมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสในการศึกษาอย่างมั่นคงและต่อเนื่องช่วยให้รอดพ้นจากอุปสรรคที่ขัดสน ยากจน ส่งผลให้มีสภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความมุ่งหวังในอนาคต ซึ่งนักเรียนทุนพระราชทานรุ่นแรกจะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในปี พ.ศ. 2559 นักเรียนทุนพระราชทานต่างน้อมนำ ยึดมั่น ปฏิบัติตนตามแนวพระราชดำรัส “เรียนดี ความรู้ดี การงานดี ชีวิตสดใส ทำประโยชน์ให้กับ ประเทศชาติ” มาเป็นเป้าหมายในการดำรงตนในฐานะนักเรียนทุนพระราชทาน ที่มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เติบโตเป็นกำลังคุณภาพของประเทศ ที่พร้อมตอบแทนคุณแผ่นดิน…

ดังบทเพลงต้นกล้าของแผ่นดินที่เป็นเสียงจากหัวใจและความมุ่งมั่นของนักเรียนทุนฯ ว่า “จะขอสืบสาน ปณิธานที่ทรงชี้นำ ลูกจะจดจำ น้อมนำไปเป็นแนวทางขอสัญญา จะรักษาคุณความดี มีศักดิ์ศรี เป็นคนดีของแผ่นดินขอยึดมั่นสถาบันชั่วชีวิน ตอบแทนแผ่นดิน ตราบสิ้นลมหายใจ”

—————————————————-

ข้อมูลและภาพประกอบจาก : http://www.tsdf.or.th , http://www.obec.go.th/index.php , http://nonthaburi.go.th , http://www.technicchan.ac.th/index.php , http://www.sk1edu.go.th

บทความแนะนำ