นักเรียนไทย ประสบการณ์เรียนต่อต่างประเทศ เรียนต่อต่างประเทศ

10 เรื่องจริง ที่นักเรียนไทยจะต้องเจอ เมื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ

Home / วาไรตี้ / 10 เรื่องจริง ที่นักเรียนไทยจะต้องเจอ เมื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ

การเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ นอกจากที่เราจะต้องเตรียมพร้อมกับการเรียนที่ต่างออกไปจากที่เคยเรียนมาแล้ว ทั้งด้านภาษา วิธีในการเรียน และอีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้เราต้องมีการปรับตัวเป็นอย่างมากเลยทีเดียวก็คือ เรื่องวัฒนธรรม ที่ในแต่ละประเทศนั้นมีความแตกต่างกันออกไป และในบทความนี้ แคมปัส-สตาร์ ไปพบกับ 10 เรื่องจริงที่นักเรียนไทยทุกคนต้องเจอเมื่อเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ หรือที่เรียกกว่า ภาวะการเข้าสู่วัฒนธรรมใหม่ (Culture Shock) จะมีเรื่องอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย

10 เรื่องจริง ที่นักเรียนไทยจะต้องเจอ เมื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ

1. การเรอเสียงดังหลังทานอาหารเสร็จ

ส่วนมากแล้วการเรอเสียงดังหลังจากการทานอาหารเสร็จ หรือการเรอเสียงดังในที่สาธารณะ เราจะเห็นพบมากในประเทศแถบเอเชียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งตอนแรกเราอาจจะงง ๆ ไม่คุ้นชิน เพราะในประเทศของเรานั้นการเรอเสียงดังหลังทานข้าวเสร็จถือว่าเป็นการเสียมารยาท แต่ในประเทศถือว่าเป็นการให้เกียรติแก่อาหารที่ทานเข้าไป แสดงว่าอาหารจานนั้นอร่อยมาก ๆ เช่น ประเทศจีน การเรอหลังทานอาหารเสร็จถือว่าเป็นการชมว่าอาหารนั้นมีรสชาติที่อร่อย เป็นต้น

2. ไม่อาบน้ำ

สำหรับประเทศที่มีอากาศหนาวมาก ๆ หรือมีอุณหภูมิต่ำ ซึ่งเราจะสามารถเห็นกันได้บ่อย ๆ ว่ามีนักเรียน-นักศึกษาหลายคนที่ไม่ค่อยอาบน้ำมาเรียนกันเป็นวัน ๆ หรือเป็นหลายวันก็มี เพราะด้วยอากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็น ทำให้เขาไม่ค่อยมีเหงื่ออกมา ไม่มีกลิ่น และไม่สกปรก หรือบางประเทศก็มีค่าน้ำแพง จึงทำให้เขาไม่ค่อยอาบน้ำกันบ่อยมากนัก และเลือกที่จะใช้น้ำหอมแทนการอาบน้ำบ่อย ๆ (ขอบอกเลยว่าบางคนที่ไม่อาบน้ำหลาย ๆ วันติดกัน เป็นสิ่งที่ไม่ดีเลยถึงแม้ว่าเราจะไม่มีเหงื่อออกก็ตาม แต่ก็มีสิ่งสกปรกสะสมอยู่ตามร่างกายได้เหมือนกันจะเป็นอันตรายสุขภาพได้นะ)

10 เรื่องจริงที่นักเรียนไทยจะต้องเจอ เมื่อเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ

3. จามหรือสั่งน้ำมูกเสียงดัง

เป็นเรื่องปกติของชาวต่างประเทศที่จะไม่ค่อยมีการสูดน้ำมูกกลับเข้าไป (บอกเลยว่าสูดกลับเข้าไปถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากสำหรับประเทศของเขา) ทั้งนี้เมื่อน้ำมูกไหลออกมาพวกเขาจะทำการสั่งในทันที ไม่ว่าจะเป็นตามร้านอาหารที่มีคนนั่งอยู่ หรือบนรถไฟฟ้าที่มีคนแน่นๆ เขาก็สามารถที่จะสั่งน้ำมูกได้

4. ไม่กดชักโครกในตอนกลางคืน

สำหรับในกรณีนี้หมายถึงการปล่อยเบาเท่านั้น ชาวต่างชาติโดยเฉพาะประเทศอังกฤษ จะมีการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ ๆ หรือแชร์ห้องอยู่กับเพื่อน เมื่อเขาจะต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำในตอนกลางคืน แต่ก็กลัวเพื่อนตื่นขึ้นมา ไม่อยากรบกวนเพื่อนเลย หรือกลัวที่จะต้องรบกวนเพื่อนข้างบ้านที่กำลังนอนอยู่ได้ เพราะด้วยกำแพงที่แสนจะเบาะบางของบ้านที่ต่างประเทศ จึงทำให้ได้ยินเสียงกดชักโครกไป 3 บ้าน 8 บ้าน กันเลยทีเดียว ดังนั้นเขาจังได้ปล่อยเวลาเข้าห้องน้ำในตอนกลางคืนให้นำไฟฉายพกติดตัวไปด้วยตลอด

5. การทานอาหารของคนอื่น

ถ้าใครที่ไปเรียนต่อต่างประเทศและมีเพื่อน ๆ เป็นชาวต่างชาติเยอะ คงจะต้องเคยเห็นเพื่อน ๆ บางคนที่เรารู้จักไม่รังเกียจที่จะทานอาหารของเราที่ทานเหลือ หรือบางครั้งที่เราไปทานอาหารกับเพื่อน ๆ แล้วโต๊ะข้าง ๆ เห็นเราทานเหลือเขาก็จะขอของเราทาน ซึ่งเราก็ไม่ต้องตกใจหรือแปลกใจไปนะ เพราะมันถือว่าเป็นอีกการกระทำในต่างประเทศที่เขาเห็นว่าเป็นเรื่องที่ปกติ ไม่มีอะไรผิด…

6. การล้างจานแบบผ่าน ๆ ไม่ต้องล้างฟองก็ได้

ในต่างประเทศเขานิยมที่ล้างจานด้วยเครื่องล้างจาน เพราะมันช่วยทำให้เราประหยัดทั้งน้ำและน้ำยาที่ใช้ในการล้างจานได้มากเลยทีเดียว แต่ก็มีในบางที่ก็ยังใช้มือในการล้างจานเหมือนกัน ซึ่งเราจะสังเกตเห็นได้ว่าวิธีการล้างจานด้วยมือนั้น เขาจะล้างกันแบบผ่าน ๆ คือ เมื่อใช้น้ำยาขัดคราบอาหารออกไปแล้ว เขาจะนำมาล้างด้วยน้ำเปล่าแบบผ่าน ๆ

บางครั้งฟองก็ยังติดอยู่เลย แรก ๆ เราอาจจะตกใจว่าทำไมเขาทำกันแบบนี้มันจะสะอาดเหรอ และจะเอาใช้ใส่อาหารได้ไหม มันจะไม่อันตรายไปเหรอ เขาก็จะบอกเรากลับว่ามันไม่เป็นอะไรหรอก ไม่งั้นเขาจะทำน้ำยาแบบนี้ออกมาให้เราล้างจานได้เหรอ (ทั้งนี้ น้ำยาล้างจานในบางประเทศเขาจะไม่แรงเท่ากับบ้านเรา หรือในบางประเทศก็จะไม่ใช้น้ำยาเลยก็มี) ดังนั้นเมื่อเราเห็นแบบนี้ ถ้าเราไม่มั่นใจก็เอาจานมาล้างเองใหม่ได้นะ หรือจะใช้เครื่องล้างแทนก็ได้

10 เรื่องจริงที่นักเรียนไทยจะต้องเจอ เมื่อเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ

7. การใช้เท้าแทนมือ

คนต่างชาติส่วนใหญ่เขาจะไม่ถือเรื่องการใช้เท้าแทนมือ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าชาวต่างชาติหลาย ๆ คนวางเท้าบนโต๊ะ บนเก้าอี้รถไฟ ใช้เท้าเขี่นของใช้กัน เป็นเรื่องที่ปกติ แต่นักเรียนไทยอย่างเราในตอนแรก ๆ อาจจะงง ไม่เข้าใจ ว่าทำถึงได้ใช้เท้ามาทำอะไรแบบนี้ มันดูไม่สุภาพเอาเสียเลย แต่ทั้งนี้เราต้องเข้าใจเสียก่อนว่าในแต่ละประเทศมีวัฒนธรรรมที่แตกต่างกันออกไป ในบางประเทศอาจจะถือเรื่องการใช้เท้า แต่ในบางประเทศเขาไม่ถือเรื่องการใช้เท้าในการเขี่ยของ เราควรที่จะต้องเรียนรู้และให้เกียรติวัฒนธรรมของเขาด้วย ไม่ต้องซีเรียสนะจ๊ะ

8. การกอด-จูบในที่สาธารณะ เป็นเรื่องปกติ

ในต่างประเทศการทักทายเพื่อน ๆ ด้วยวิธีการเอาแก้มชนแก้มกันนั้นเป็นที่ปกติมาก หรือคู่รักบางคู่อาจจะสวีทกันด้วยการจูบกันก็เป็นเรื่องปกติ ซึ่งนักเรียนไทยหลาย ๆ คนอาจจะงงในช่วงแรก ๆ (แต่ก็ยังแอบมองกันอยู่ดีใช่มะว่าเขากำลังทำอะไรกัน อิอิ) แต่ทั้งนี้การแสดงออกความรักในการกอดหรือจูบในที่สาธารณะเป็นที่ไม่ผิด และเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมของชาวต่างชาติในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ซึ่งเขาก็จะไม่การเกินเลยกันไปมากกว่านี้

9. ตรงไปตรงมา ชอบก็บอก ไม่ชอบก็บอก

ในต่างประเทศ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าคนอเมริกันเป็นคนที่ตรงไปตรงมา ต้องการอะไรก็จะบอกออกมาเลย ไม่มีการอ้อมค้อมให้เสียเวลา อยากกินอะไรก็จะบอกเลย ไม่ชอบก็จะบอกออกมาตรง ๆ เช่นกัน จะไม่มีการเกรงใจหรืออาย เพราะวัฒนธรรมของเขาเป็นคนที่เปิดเผย มั่นในใจตัวเอง จึงทำให้คนในประเทศไม่ค่อยแคร์อะไร แต่พวกเขาก็มีความจริงใจมากเหมือนกันนะ

10. ร้านค้าปิดเร็วมาก ในต่างประเทศ

ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นฝั่งทางยุโรปและออสเตรเลีย ที่ปกติแล้วร้านค้าจะเริ่มปิดประมาณตอน 5-6 โมงเย็น แต่ก็มีในบางช่วยที่จะปิดดึกกว่าเดิมก็คือ ช่วงซัมเมอร์หรือช่วงเทศกาลลดราคา นั่นเอง ซึ่งนักเรียนไทยบางคนติดนิสัยชอบกินและช้อปปิ้งในเวลาตอนเย็น ๆ ก็ต้องอดไปตามระเบียบนะจ๊ะ

ที่มา : www.kaplaninternational.com

Written by : Toey

บทความแนะนำ