ผ่านพ้นไปล่าสุดกับเวทีค้นหา “College of Entrepreneurship Ambassador 2019” ของวิทยาลัยผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เวทีที่ค้นหาดาวเดือนของวิทยาลัยผู้ประกอบการมาในคอนเซ็ปต์ “งานวัดรื่นเริง บันเทิงประกอบการ” ไม่เพียงแต่ความหล่อ ความสวยเท่านั้น ยังต้องสามารถเป็นผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรมทั้งด้านความรู้ แนวคิดทฤษฎีและปฎิบัติ เพื่อให้สอดคล้องกับวิทยาลัยแหล่งศูนย์บ่มเพาะชั้นนำของประเทศไทยผลิตบัณฑิตผู้ประกอบการสู่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการทุกภาคส่วน
ดาว เดือน วิทยาลัยผู้ประกอบการ ม.หอการค้าไทย
เวทีค้นหา “College of Entrepreneurship Ambassador 2019” ของวิทยาลัยผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
นาย รัฐศาสตร์ อดุลย์เจริญ (น้องเบส) นักศึกษาชั้นปี 1 คณะวิทยาลัยผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผู้ชนะเลิศ College of Entrepreneurship Ambassador 2019 เล่าว่า
“ผมใช้ระยะเวลาในการเตรียมตัวประมาณ 1 เดือน โดยสิ่งแรกคือเรื่องของการพัฒนาร่างกายพักผ่อนให้เพียงพอ บริโภคอาหารที่มีประโยชน์เพื่อให้มีพลังงานในการทำสิ่งอื่น ๆ ต่อไป ในส่วนของเรื่องความสามารถนั้นเรามีความสามารถในเรื่องของการเล่นดนตรีตีกลองอยู่แล้วเลยนำมาต่อยอดประกวดในครั้งนี้ หลังจากนี้ผมตั้งใจจะทำหน้าที่ College of Entrepreneurship Ambassador 2019 ให้ดีที่สุดตลอดระยะเวลา 1 ปีการศึกษา
ในมุมมองของตัวเองที่ผ่านผมเริ่มมีการทำธุรกิจอยู่แล้วและที่บ้านก็ได้สนับสนุนให้เรียนในสิ่งทีเราชอบ ซึ่งผมคิดว่าการชอบในการบริหารอะไรหลาย ๆ อย่างและอยากที่จะเป็นเจ้าของกิจการ คณะวิทยาลัยผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยสามารถช่วยบ่มเพาะให้ผมเป็นผู้ประกอบการระดับแนวหน้าของประเทศไทยได้ต่อไปในอนาคต ที่สำคัญผมยังนำความรู้ความสามารถด้านต่างๆกลับมาสอนรุ่นน้องในคณะได้ในปีต่อไป”
น.ส.วรัทยา สุมาลี (น้องเอิน) นักศึกษาชั้นปี 1 คณะวิทยาลัยผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ผู้ชนะเลิศ College of Entrepreneurship Ambassador 2019 เล่าว่า
“เวทีนี้เป็นเวทีแรกที่ได้มาประกวดก่อนซึ่ งก่อนหน้านั้นไม่เคยประกวดที่เวทีไหนมาก่อน มีการฝึกฝนในเรื่องของความกล้าแสดงออก สร้างความมั่นใจให้กับตัวเองเรื่องของบุคลิกภาพ ความสามารถพิเศษที่นำมาประกวดครั้งนี้เป็นการรำไหของทางภาคอีสาน เนื่องจากเอินเป็นคนอีสานมาตั้งแต่กำเนิดและมีความสนใจในเรื่องของการรำไหมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยเลือกแสดงโชว์เป็นความสามารถพิเศษ เพราะจะได้เป็นการเผยแผ่วัฒนธรรมและประเพณีของชาวอีสานให้กับเพื่อนๆ ภูมิภาคต่างได้ชมกัน
หลังจากนี้ตลอดระยะเวลา 1 ปีจะตั้งใจทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด อยากให้ทุกคนมีความมั่นใจและความกล้าที่จะแสดงออก เพราะถ้าเรามีความมั่นใจที่จะทำอะไรสิ่งหนึ่งมันจะทำให้เรารู้สึกสู้ที่จะทำสิ่งนั้นอย่างเต็มที่ให้มันออกมาดีที่สุด นอกจากนี้ยังมุ่งมั่นที่จะเป็นนักธุรกิจที่ดีสร้างประโยชน์มากมายให้กับส่วนต่างๆของสังคม”
บทความที่เกี่ยวข้อง
