การไปโรงเรียนกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับเด็กๆ จากทั่วโลกไปเสียแล้ว เพราะนอกจากจะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปนั่งเรียนในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ และไม่มีความน่าตื่นเต้นให้เราได้ทำเลย นอกจากเวลาพักที่เปิดโอกาสให้ได้เล่นกับเพื่อนๆ และนี่คือ 15 โรงเรียนทั่วโลกที่รวบรวม โดยเว็บไซต์ BrightSide ซึ่งแน่นอนว่านอกจากบรรยากาศที่พิเศษและดีไซน์สุดเก๋กว่าโรงเรียนทั่วไปแล้ว หลักสูตรการเรียนการสอนก็ไม่เหมือนที่ใดอีกด้วย จะมีโรงเรียนไหนกันบ้าง? ตามมาดูกันได้เลย
โรงเรียนดีไซน์สุดเจ๋ง จากทั่วโลก
1. โรงเรียนลอยน้ำ (Makoko Floating School) เมืองเลกอส (Lagos) ประเทศไนจีเรีย
เป็นโรงเรียนที่ดูเรียบง่ายตั้งอยู่บนผืนน้ำ และสามารถปรับระดับให้เข้ากับน้ำขึ้นลงไปเป็นอย่างดี แถมยังสามารถรับมือกับสภาพอากาศที่เลวร้ายได้ดีอีกอ้วย นอกจากนี้โรงเรียนแห่งนี้ยังไม่จำกัดอายุของนักเรียน พร้อมทั้งนี้พื้นที่ทั้งหมดยังสามารถเป็นได้ทั้งห้องเรียน และสนามเด็กเล่นได้ในเวลาเดียวกัน… สุดยอดไปเลย!!
2. โรงเรียนในลูกบาศก์ เมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ประเทศเดนมาร์ก
เป็นโรงเรียนที่มีห้องเรียนขนาดใหญ่ ซึ่งมีนักเรียนชั้นมัธยมตอนปลายมากกว่า 1,100 คน การเรียนการสอนจะดำเนินไปในโดมกระจกแห่งนี้ โดยจะแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ และจะเรียนแบบแยกกันเป็นกลุ่มๆ ด้วยความที่มีพื้นที่ในการเรียนการสอนที่ค่อนข้างกว้าง ทำให้นักเรียน สามารถนั่งเรียนได้อย่างสะดวกสบาย ช่วยทำให้นักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์ และเรียนรู้ได้อย่างสนุกสนานไปพร้อมกับเพื่อนๆ และอาจารยผู้สอน
3. โรงเรียนที่นักเรียนสามารถจัดการทุกอย่างได้ด้วยตนเอง ประเทศออสเตรเลีย
ด้วยความที่โรงเรียนแห่งนี้ถูกออกแบบในรูปทรงของเรขาคณิต มีสีสันสดใส ซึ่งที่โรงเรียนแห่งนี้นักเรียนจะได้รับโอกาสในการจัดแผนการเรียนได้ด้วยตนเอง โดยจะมีผู้ปกครองและคุณครูช่วยดูเหลือดูแลอยู่ด้วย อีกทั้งนักเรียนยังมีสิทธิ์ในการนำเสนอวิธีหรือแนวทางการเรียนการสอนในหลักสูตรแบบใหม่ๆ เพื่อเป็นการพัฒนาทักษะความรู้ ความสามารถของตัวนักเรียนอีกด้วย และที่สำคัญนักเรียนที่นี่จะถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มเล็กๆ ทำให้คุณครูดูแลได้อย่างทั่วถึง
4. โรงเรียนฝึกประสบการณ์จริง รัฐโรดไอแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
จุดเด่นของโรงเรียนแห่งนี้ก็คือ นักเรียนที่เข้าเรียนที่นี้จะได้เรียนรู้ในสิ่งที่พวกเขาชอบ พวกเขารักโดยตรงจากผู้เชี่ยวชาญ หรือทำงานอยุ่ในสาขานั้นๆ ซึ่งนักเรียนของที่นี้ก็จะได้เรียนรู้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการรู้จริงๆ และพวกเขาก็จะตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่ เพื่อนำความรู้ที่ได้จากการเรียนไปใช้ในวิชาชีพที่ตนเองถนัดในอนาคต
5. โรงเรียนที่มีบรรยากาศเหมือนออฟฟิศทำงาน รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา
โรงเรียนแห่งนี้ไม่มีห้องเรียน เมื่อเราเปิดประตูเข้าไปในโรงเรียนจะพบแต่ห้องโถงขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วย เครื่องคอมพิวเตอร์และที่นั่งส่วนตัวของนักเรียนเท่านั้น ให้บรรยากาศเหมือนเรามาทำงานที่ออฟฟิคมากกว่ามาโรงเรียน ซึ่งนักเรียนของโรงเรียนนี้จะใช้วิธีการเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านคอมพิวเตอร์ คือให้นักเรียนค้นหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ต่างๆ บนโลกออนไลน์ แต่ถ้าหากมีข้อสงสัยอะไรที่เราหาไม่ได้หรือแก้ไขไม่ได้ก็สามารถสอบถามอาจารย์ผู้สอนได้ โดยจะเปิดรับสมัครนักเรียนในระดับเกรด 3-12 เท่านั้น (ประมาณ ป.3-ม.6 หรือ อายุประมาณ 9-18 ปี)
6. โรงเรียนที่ให้เด็กเรียนรู้ถึงความอันตราย เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา
เป็นโรงเรียนที่จะสอนทุกอย่างที่พ่อแม่ห้ามทำ!!! ซึ่งนักเรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประสบการณ์ที่ไม่เคยทำหรือเห็นมาก่อน เช่น การได้ทำงานกับไฟ ถอดแยกชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าจนเนื้อตัวมอมแมม รวมไปถึงการได้เรียนศิลปะอีกด้วย เพราะโรงเรียนแห่งนี้เชื่อว่าวิธีแบบนี้จะทำให้นักเรียนได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองเป็นวิธีที่ดีที่สุด
7. โรงเรียนที่ไม่มีการแบ่งเพศ เมืองสต็อคโฮม ประเทศสวีเดน
โดยหลักสูตรการเรียนการสอนของที่นี่จะมุ่งเน้นไปเรื่องของความเสมอภาคกันในสังคมของผู้หญิงและผู้ชาย จะหลีกเลี่ยงการใช้สรรพนามที่บ่งบอกถึงการแบ่งแยกเพศของนักเรียน แต่ให้ใช้การเรียกชื่อหรือแทนด้วยคำสรรพนามที่ไม่รุบุเพศแทน จุดมุ่งหมายก็เพื่อที่จะให้นักเรียนไม่รู้สึกถึงความแปลกแยกจากสังคม อีกทั้งโรงเรียนแห่งนี้ยังเน้นในเรื่องสุขภาพและจิตใจเป็นพิเศษ
8. โรงเรียนสตีฟ จ๊อบ เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
ส่วนมากแล้วโรงเรียนต่างๆ จะเป็นคนจัดตารางการเรียนการสอนให้กับนักเรียน แต่ที่นี่จะให้นักเรียนได้มีโอกาสในการจัดสรรเวลาเรียนและแผนการเรียนเป็นของตัวเอง เพื่อให้สอดคล้องกับทักษะ ความสามารถของแต่ละคน อีกทั้งแผนการเรียนนี้จะมีการประเมินผลและกำกับดูแลโดยคุณครูและผู้ปกครองอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะรับแค่นักเรียนเกรด 4-12 เท่านั้น (ประมาณ ป.4-ป.6 หรืออายุ 10-18 ปี)
9. โรงเรียนในย่าน Silicon Valley เมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ด้วยความที่ย่านแห่งนี้เป็นศูนย์รวมของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก และเป็นที่แน่นอนว่าโรงเรียนแห่งนี้มุ่งเน้นให้นักเรียนได้มีโอกาสในการฝึกคิดและเรียนรู้เกี่ยวกับทักษะเกี่ยวกับเทคโนโลยีอยู่เสมอ โดยนักเรียนทุกคนจะได้รับ iPad เป็นเครื่องมือในการบันทึกกิจกรรมต่างๆ ที่ตัวเองต้องทำ อีกทั้งยังฝึกให้ออกแบบสิ่งก่อสร้างด้วยโปรแกรมการออกแบบ 3 มิติ แต่โรงเรียนแห่งนี้จะรับนักเรียนที่มีอายุ 4-14 ปีเท่านั้น
10. โรงเรียนชั้นประถม ที่เต็มไปด้วยสีสัน เมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
เป็นโรงเรียนที่ถูกออกแบบแต่งแต้มสีสันสดใส ดูแล้วไม่น่าเบื่อ ซึ่งห้องเรียนจะถูกแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ทำให้นักเรียนไม่ต้องนั่งเรียนในห้องสีเหลี่ยมเพียงอย่างเดียว โดยออกแบบเป็นรูปทรงต่างๆ เพื่อทำให้นักเรียนรู้สึกอยากมาเรียนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีสัญญาณ Wi-Fi อยู่ทั่วแทบทั้งโรงเรียน พร้อมมีคุณครูที่ช่วยเสริมสร้างการเรียนให้กับนักเรียน เรียนไปได้อย่างสนุกสนานและได้ความรู้มากที่สุด
11. โรงเรียนแห่งความคิดสร้างสรรค์ เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
ผู้ก่อตั้งโรงเรียนนี้ขึ้นมามีความคิดว่า โรงเรียนนั้นต้องเต็มเปี่ยมไปด้วยความสนุกสนานเสมือนกับสนานเด็กเล่น จึงทำให้นักเรียนของที่นี่ได้เรียนรู้ในการพัฒนาความคิดอันสร้างสรรค์ของตัวเอง โดยนักเรียนในเกรด 2-8 (ประมาณ ป.2-ม.2) จะได้เรียนรู้วิธีการรีไซเคิลขยะอย่างสร้างสรรค์ และได้เปิดโอกาสให้สร้างโมเดลของเมืองนิวยอร์ก รวมถึงกิจกรรมเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์อีกมากมาย เพื่อที่นักเรียนจะได้พัฒนาและตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองให้ได้มากที่สุด
12. โรงเรียนที่นักเรียนจะได้เรียนบนภูเขาและในถ้ำ เมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน
โรงเรียนที่ฉีกกฏอันน่าเบื่อของห้องเรียนในแบบเดิมๆ ออกไปได้เป็นอย่างมาก เพราะที่นี่ไม่มีห้องเรียน แต่เป็นอาคารเปิดโล่ง ทำให้เหมือนเป็นโลกแห่งจินตนาการที่นักเรียนจะสามารถเรียนรู้ และเล่นได้อย่างสนุกสนาน ทุกคนจะมีคอมพิวเตอร์คนละหนึ่งเครื่องเป็นของตัวเอง อีกทั้งในหลัดสูตรการสอนยังมีการสอนเรื่องเกี่ยวกับดนตรี ศิลปะ และการเต้นอีกด้วย
13. โรงเรียนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สุดในโลก ที่ประเทศฝรั่งเศส
แทบทุกตารางนิ้วของโรงเรียนแห่งนี้จะเต็มไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ใบหญ้า รวมถึงบนหลังคาก็เช่นกัน เนื่องจากทางโรงเรียนนั้นมีความคิดว่า การนั่งเรียนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมที่เต็มไปด้วยฝุ่นช่างเป็นเรื่องที่แสนน่าเบื่อ ดังนั้นจึงเน้นบรรยากาศการเรียนที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ และอากาศที่ถ่ายเท ปลอดโปร่งโล่งสมองสุดๆ
14.โรงเรียนที่ไม่มีวิชาเรียน เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา
เป็นโรงเรียนที่นักเรียนได้รับอิสระในการเรียนในสิ่งที่อยากจะเรียน ทำอะไรก็ได้ ไม่มีการบ้าน ไม่มีการสั่งงาน รวมถึงไม่มีการจัดตารางเวลาอีกด้วย ส่วนคุณครูมีหน้าที่ดูแลและสังเกตุการณ์นักเรียนอยู่ห่างๆ อีกทั้งเด็กๆ ยังมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจเองอีกด้วย ว่าในหนึ่งวันอยากจะทำอะไรที่โรงเรียนบ้าง
15. โรงเรียนที่ไม่มีการกดดัน หรือบังคับใดๆ ทั้งสิ้น เมืองเอสโป ประเทศฟินแลนด์
ในระหว่างการเรียนการสอน นักเรียนที่นี่มีสิทธิ์ที่จะนั่งตรงไหนก็ได้ คุยกับเพื่อนก็ได้ จะขึ้นไปนั่งบนโต๊ะหรือนอนบนโซฟาก็ได้ถ้ารู้สึกเหนื่อย ทำให้บรรยากาศในห้องเรียนเป็นไปอย่างสบายๆ อีกทั้งโรงเรียนยังมีโรงยิม หอประชุม และคลับสำหรับวัยรุ่นอีกด้วย
——————————————–
ที่มา : https://brightside.me/
