หลายๆ คน กำลังสับสน กำลังตัดสินใจว่าจะเลือกเรียนคณะ และสาขาไหนดี วันนี้ Campus-Star มาแชร์ประสบการณ์การเรียนสาขาการตลาด เผื่อจะช่วยให้น้องๆ ตัดสินใจได้
เรื่องน่ารู้ก่อนเลือกเรียน สาขาการตลาด
คณะบริหารธุรกิจ เป็นคณะที่ค่อนข้างใหญ่ มีหลายสาขา และสาขาการตลาดก็เป็นสาขาหนึ่งของคณะบริหารธุรกิจ ซึ่งเด็กการตลาดจะต้องเรียนวิชาพื้นฐานเหมือนเด็กสาขาอื่นๆ ในคณะบริหาร และในสาขาการตลาดก็จะเลือกได้อีกว่าจะเน้นไปทางด้านไหน เช่น ดิจิตอล มาเก็ตติ้ง (Digital Marketing), การสื่อสารการตลาด (Integrated Marketing Communications) หรือจะเลือกไมเนอร์แทนก็ได้ เช่น โฆษณา (Advertising)
1. ทฤษฎีเป๊ะอย่างเดียวไม่ได้
ในบางวิชาของสาขาการตลาด เรียนเก่ง อ่านหนังสือมาแน่นไม่พอนะ ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ด้วย บางวิชาอาจารย์อาจจะให้เราคิดโฆษณา, สโลแกน, แผนการตลาด หรือคิดสตอรี่บอร์ด ซึ่งต้องใช้จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์สูง แต่เด็กการตลาดจะไม่ได้เรียนเจาะลึกไปถึงขั้นตอนการทำสื่อนะแต่เป็นเรื่องของการทำการตลาดมากกว่า ถ้าใครที่ไม่ค่อยมีความคิดสร้างสรรค์ แนะนำให้ดูเยอะๆ ตามเทรนด์ ฝึกคิดบ่อยๆ จะช่วยได้
2. ใครว่าเรียนการตลาดไม่มีคำนวณ
อย่าเลือกเรียนการตลาด เพราะไม่ชอบการคำนวณ ควรเลือกเรียนจากความชอบของตัวเอง และเรียนการตลาดมีคำนวณนะ ถึงจะไม่ต้องเรียนแคลคูลัส แต่ก็ต้องเรียนสถิติ บัญชีพื้นฐาน และอีกหลายวิชาพื้นฐานที่ต้องใช้การคำนวณ หรือแม้กระทั่งวิชาของสาขาการตลาดก็มีการคำนวณเหมือนกัน ใครที่ชอบสาขาการตลาดแต่ไม่เก่งคำนวณก็ไม่ต้องกังวลไป การคำนวณของสาขาการตลาดไม่ยากเท่าสาขาอื่นๆ ถ้าตั้งใจ อดทนหน่อย ผ่านไปได้แน่นอน เพราะวิชาที่ไม่มีคำนวณก็มีเยอะเหมือนกัน สนุก ไม่ใช่แค่เรียนแต่ทฤษฎีแน่นอน
3. งานกลุ่มเลี่ยงไม่ได้
ถ้าคิดจะเรียนสาขาการตลาดแล้วล่ะก็ ต้องทำใจไว้เลยว่างานที่ต้องทำเป็นกลุ่มเยอะมาก งานที่ได้รับมอบหมายจากอาจารย์ส่วนใหญ่เป็นงานที่ต้องทำกับเพื่อนๆ ในกลุ่ม ถ้าต้องทำคนเดียวไม่เสร็จแน่นอน หรือไม่ก็ต้องเร่งทำแบบอดหลับอดนอนถึงจะเสร็จ ซึ่งมีโอกาสเกิดความผิดพลาดสูง และการสื่อสารก็เป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะการทำงานร่วมกับคนอื่น ปัญหาเรื่องความคิดเห็นไม่ตรงกัน หรือเพื่อนไม่ช่วยงาน ต้องเกิดขึ้นแน่นอน ฉะนั้นต้องรู้จักพูดให้เป็น อย่าใช้อารมณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการทะเลาะ
4. สกิลลับต่างๆ ต้องมี
เรียนสาขาการตลาด ไม่ใช่แค่เรียนในห้องแล้วจบ ยกตัวอย่างเช่น ในห้องเรียนจะไม่มีการสอนใช้โปรแกรมตัดต่อรูป หรือวิดีโอ แต่ในบางวิชาอาจารย์จะสั่งให้ทำ โปสเตอร์โฆษณา หรือวิดีโอสั้น ถ้าไม่เรียนรู้จากนอกห้องเรียน ตอนที่ต้องส่งงานอาจารย์ละก็ ต้องแย่แน่ๆ แต่ถ้าใครที่ไม่ได้ด้านนี้เลยจริงๆ ไม่ต้องกังวลไป อาจารย์บางวิชาก็เข้าใจว่าเราเป็นเด็กการตลาด ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องตัดต่อได้เก่งมาก แค่ถ่ายทอดสิ่งที่เราอยากจะสื่อสารออกมาให้รู้เรื่อง และน่าสนใจก็เพียงพอแล้ว และไม่ใช่ทุกวิชาที่มีการตัดต่อ แต่ถ้าใครเก่ง ทำออกมาได้ดี ก็เหมือนก้าวนำเพื่อนไปได้หนึ่งก้าว และสาขาการตลาดมีคนเรียนค่อนข้างเยอะ มีการแข่งขันสูง เพราะฉะนั้น น้องๆ ที่อยากจะเรียนสาขานี้ ปิดเทอมว่างๆ ลองเรียนดูนะจ๊ะ นอกจากโปรแกรมต่างๆ แล้ว น้องๆ ต้องติดตามข่าวสารอยู่เสมอ หมั่นอัพเดตเทรนด์ ฝึกให้เป็นนิสัยได้จะดีมาก
5. เรียนรู้ได้จากนอกห้องเรียน
เรียนรู้ในความหมายของเด็กการตลาด ไม่ได้หมายถึงการเรียนในห้องเพียงอย่างเดียว แต่สามารถเรียนรู้ได้จากนอกห้องเรียน เช่น Facebook, Instagram, Twitter, YouTube หรือ สิ่งรอบๆ ตัว เพื่อศึกษาการทำการตลาดของแบรนด์ต่างๆ และเทรนด์ที่กำลังมา แล้วนำมาปรับใช้กับความรู้ที่ได้เรียนมา บางครั้งสิ่งที่สาขาวิชาการตลาดสอนเป็นสิ่งที่เราเห็นประจำ หรือรู้อยู่แล้ว แต่นึกไม่ถึงว่าสิ่งๆ นี้เป็นองค์ความรู้ และสามารถทำประโยชน์ด้านการตลาดได้