นักแสดงคลื่นลูกใหม่ ลูกกวาง-ธีรพร สุขภาคี ในนิตยสาร Campus Star No.50

แฟชั่นของสาวสวยเก่ง นักแสดงคลื่นลูกใหม่ ลูกกวาง-ธีรพร สุขภาคี ในนิตยสาร Campus Star No.50 กับนิยามความเป็นเด็กรัฐศาสตร์ เทคนิคการพรีเซ้นท์งาน ไลฟ์สไตล์การทำกิจกรรมในแบบชาวมอ

ลูกกวาง-ธีรพร สุขภาคี ในนิตยสาร Campus Star No.50

FIRST OF LOOKKWANG

ชื่อ : ลูกกวาง-ธีรพร สุขภาคี

การศึกษา : ปี 4 คณะสังคมศาสตร์ ภาควิชารัฐศาสตร์ สาขาวิชาการเมืองการปกครอง ม.ศรีนครินทรวิโรฒ

วันเกิด : 10 กันยายน 2537

ส่วนสูง : 166 ซม.

น้ำหนัก : 47 กก.

นิยามสามคำบอกความเป็นชาวมอ : ตุ๊ดเยอะมาก

คติประจำใจเวลาเรียน : เรียนเพื่อรู้และนำไปใช้

วิชาเรียนน่าเบื่อ : การเมืองศาสนาอารยธรรม

แหล่งช้อปปิ้งใกล้มอ : eveandboy เซ็นทรัลพระราม 9, Terminal 21, เอสพานาด

สิ่งที่อยากให้ปรับปรุงในมอของเรา : อยากให้ขยายตึกคณะสังคมศาสตร์ให้ที เพราะคนเยอะมาก ห้องเรียนไม่เพียงพอ 55

เป้าหมายในอนาคต : อยากเข้าวงการบันเทิง

ผลงาน : โฆษณาทิปโก้ ถ่ายแบบเสื้อผ้าต่างๆ

Instagram : luukkwang

สนใจทางด้านรัฐศาสตร์การเมืองการปกครอง

หนูเรียนอยู่ปี 4 คณะสังคมศาสตร์ มศว ค่ะ ตอนแรกที่จะเลือกเข้ามหาวิทยาลัย อยากจะเลือกทางด้านโฆษณาสื่อสาร แต่คะแนนนิเทศฯ ตอนนั้นสูง แล้วคะแนนหนูไม่ถึง ก็แอบเสียใจเล็กๆ แล้วพอดีช่วงนั้นก็เห็นพี่สาวเรียนทางกฎหมาย ก็น่าสนใจ คิดว่าคงไม่ยาก หนูก็เลยอยากเรียนทางด้านนี้บ้าง แต่เข้ามาเรียนตอนแรกก็แอบงงๆ หน่อย เพราะว่าหนูเรียนภาควิชารัฐศาสตร์ ซึ่งมันจะแบ่งเป็น 3 เอก คือ การเมืองการปกครอง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แล้วก็รัฐศาสนศาสตร์ เราก็ไม่รู้ว่ามีเรียนไปทางแขนงไหนบ้าง แต่ตอนแรกจะเรียนรวมกันก่อน เรียนพื้นฐาน ซึ่งหนูก็ชอบนะคะ ไม่ได้เป็นคนเรียนเก่งมาก แต่ก็พอเรียนได้ แล้วก็เลือกเอกการเมืองการปกครอง เกี่ยวกับการทำงานของพรรคการเมือง การเลือกตั้ง การปกครองในชุมชน เรียนแล้วสนุกดี

ดาวหน้าใสนักกิจกรรม

ปี 1 ก็ได้เป็นดาวคณะรัฐศาสตร์แล้วก็เป็นลีดคณะด้วย ปี 2 ได้ทำกิจกรรมในสโมสรคณะ ดูแลน้องๆ ปี 1 ที่เรียนที่องครักษ์ เพราะว่าสังคมในคณะสังคมศาสตร์ใหญ่มากมีถึงเกือบ 1,000 คน แต่ว่าคนในสโมสรไม่พอ ตอนนั้นหนูก็เลยไปสมัครทำงาน ก็ไม่คิดว่าจะได้หรอก ก็ลองไปสัมภาษณ์ดู แต่หนูค่อนข้างเป็นเด็กกิจกรรม ชอบทำกิจกรรม ตอนทำก็เป็นงานที่หนักนะ แต่ก็สนุกดี ได้เป็นฝ่ายกองประกวดดาวเดือนด้วย ได้ทำงานจริง ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ตอนปี 3 ก็เคยไปฝึกงานที่กระทรวงมหาดไทย ก็เลยได้รู้ว่าเราชอบทางไหน อยากทำอะไร หนูว่างานราชการมันทำได้เรื่อยๆ แต่รู้สึกว่าตัวเองยังเด็ก ไม่ชอบอะไรที่มันเนิบๆ เกินไป แล้วหลายคนบอกว่าบุคลิกหนูไม่เหมือนเด็กรัฐศาสตร์เลย หนูมักจะได้งานที่ไม่ค่อยตรงกับสายที่เรียน อาจารย์ที่ภาคยังเคยถามเลยว่า ลูกกวางทำไมถึงมาเรียนรัฐศาสตร์ (หัวเราะ) อนาคตตอนนี้ก็อยากเป็นนักแสดงค่ะ เห็นดาราหลายคนเขาแสดงกันเก่งๆ แล้วก็อยากจะเล่นให้ได้อย่างเขาบ้าง

นิยามความเป็นลูกกวาง

นิสัยจริงๆ เป็นคนง่ายๆ สนุกสนาน เฮฮา อย่างที่บอกว่าคนไม่คิดว่าเรียนรัฐศาสตร์ นึกว่าเรียนศิลปกรรมฯ อยู่กับเพื่อนหนูค่อนข้างพูดเก่งนะ แต่คือก็อาจจะมีบ้างที่พูดไปเรื่อย ไม่ได้ตั้งใจว่าใคร แต่มันพูดไปเองไม่รู้ตัว เพื่อนสนิทในมอมีหลายกลุ่มค่ะ ทั้งในสโมสร ในส่วนของลีด แล้วก็ดาวเดือน กลุ่มเป็นกลุ่มใหญ่เหมือนกัน 8-9 คน เอาจริงๆ ตอนแรกสนิทกับเพื่อนผู้ชายซะส่วนใหญ่ เพราะรู้สึกเพื่อนผู้ชายแมนๆ ไม่เรื่องมาก ตอนแรกเข้ามาก็มีเพื่อนผู้หญิงในคณะไม่ชอบหนูด้วย แต่พอหนูได้มาทำกิจกรรมในสโมสร ได้มาเป็นลีด คนที่ไม่ชอบเราก็เริ่มเข้ามาคุยกับเรา ตั้งแต่นั้นก็เลยเลิกเกลียดหนู การเข้าไปทำกิจกรรมทำให้หนูได้เพื่อนเพิ่มมากขึ้น เริ่มมีคนมาทำรู้จัก แล้วก็เข้าใจในความเป็นตัวตนของเรามากขึ้น แล้วก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน รักกันขึ้นมาเอง ตอนนี้ก็เลยมีทั้งเพื่อนหญิง ทั้งชาย แล้วก็เพศที่สาม

การพรีเซ้นท์งานสไตล์เด็กรัฐศาสตร์

การพรีเซ้นท์งานจะมีทุกคลาสเรียนเลยค่ะ อาจารย์เขาอยากให้เด็กออกมาพรีเซ้นท์เพื่อดูแนวคิดของเราว่าเป็นแบบไหน เราพูดถูกหรือผิดยังไงบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นงานกลุ่ม ประมาณ 5-6 คน ทุกคนก็จะได้พูดในส่วนของตัวเอง แต่ละคนก็จะมีสไตล์การพูดที่แตกต่างกันไป เราจะไม่ได้ฟิกซ์ว่าจะต้องพูดแบบไหน อยากให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเอง ส่วนหนู ถ้าหนูเตรียมข้อมูลมาค่อนข้างแม่นจะไม่ค่อยตื่นเต้นมาก แต่ส่วนใหญ่ก็จะตื่นเต้นบ้างเป็นเรื่องปกตินะกลัวว่าจะพูดถูกใจอาจารย์หรือเปล่า เพราะคะแนนเราอยู่ในมืออาจารย์ แต่สไตล์การพูดของหนู ถ้าหนูมั่นใจ จะเลือกพูดแบบไม่ซีเรียส อยากให้คนเข้าใจ พยายามไม่ใช้ศัพท์ยาก เพราะบางคนออกไปพูดศัพท์ทางการเกินไป คนก็จะฟังไม่รู้เรื่อง แล้วก่อนที่จะพรีเซ้นท์ หนูก็จะเตรียมตัวโดยเอาหัวข้อมาอ่านก่อน ทำความเข้าใจเรื่องที่จะพูด ว่าจะเริ่มตรงไหน จะสรุปช่วงท้าย แล้วส่งต่อให้เพื่อนยังไง บางทีก็มีฝึกพูดหน้ากระจกบ้าง

ปัญหาการพูดสำหรับตัวเองที่ต้องแก้ไข

เรื่องการพูดที่โดนติบ่อยๆ คือเสียงหนูจะเล็ก แหลม แบนค่ะ จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจ แต่มันเป็นแบบนั้นเอง ก็บุคลิกหนูเป็นแบบนี้อะ จะง้องแง้ง มีความแบ๊วๆ (หัวเราะ) ตอนนี้เวลาพรีเซ้นท์ก็ต้องพยายามปรับให้เสียงทุ้มขึ้น พยายามไม่เล่น พูดให้เป็นทางการ พูดให้รู้เรื่องขึ้น งานพิธีกรหนูก็สนใจอยากทำเหมือนกันนะ ก็ยังไม่เคยทำ แต่ว่าการพูดหนูเป็นแบบนี้ เลยกลัวคนฟังไม่รู้เรื่อง ถ้าได้ทำจริงๆ ก็คงจะเป็นพิธีกรแนวบันเทิง ไม่ซีเรียส เข้ากับบุคลิกหนูมากกว่า

แพ้ทางหนุ่มมีกล้าม และทำงานเก่ง

สเปกหนูชอบคนมีกล้าม แล้วก็สูงๆ ผิวก็ผิวปกติ แบบผิวขาวนิดหน่อย แต่ไม่ต้องขาวเว่อร์วังอลังการมาก บุคลิกชอบคนเก่งค่ะ เรียนเก่ง ทำงานหรือทำกิจกรรมเก่ง ตอนนี้ก็มีคุยๆ อยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพื่อนๆ กันไปก่อน ส่วนคนที่แอบปลื้มก็มีบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็แค่ชอบ แอบปลื้มอยู่ในใจ ไม่ได้คิดว่าจะเป็นแฟนกับเขา ก็เคยมีผู้ชายอยู่คนหนึ่งที่หนูแอบปลื้มตั้งแต่สมัยเรียนม.3 จนมาเข้าปี 1 ที่มศว ก็ไม่คิดว่าจะเจอเขา แต่ก็เจอนะคะ ตกใจมาก ว่าคนนี้หรอ เฮ้ย ชอบอะ น่ารัก สูงๆ กล้ามเล็กๆ ตอนนั้นพี่เขาเป็นเน็ตไอดอลด้วย ก็ไม่คิดว่าเขาจะมาขอไลน์เรา ก็ตื่นเต้นนะ แต่สุดท้ายก็มารู้ว่าพี่เขามีแฟนแล้ว แล้วเขาก็หายไปเลย จนช่วงนี้ก็มาเจอกันอีกทีค่ะ พี่เขาก็ทักไลน์เข้ามาใหม่แหละ แต่ว่าก็ไม่ได้คิดอะไรแล้ว

สเปกที่รับไม่ได้ ระหว่างหนุ่มปากจัด ปากเสีย หรือปากมาก

เอาจริงๆ หนูชอบคนตลก ฮาๆ แต่ก็ไม่ต้องพูดมาก แค่คุยกันได้ รับฟัง มีเหตุมีผล ให้คำปรึกษากันได้ ไม่ชอบคนขี้เก๊ก ขี้อวด อวดโน่นอวดนี่ คือบางทีเขาพูดอาจจะไม่คิดอะไรก็ได้ แต่คนฟังเราก็คิดไปอีกอย่างอะ ส่วนผู้ชายปากจัดนี่ก็ชอบนะ (หัวเราะ) เพื่อนสนิทหนูก็เป็นแนวนั้นเหมือนกัน แล้วหนูก็ไม่ค่อยโกรธใครด้วย บางทีเขาก็ชอบแซวๆ ด้วยคำพูดที่ไม่ค่อยน่ารัก คือเขาก็พูดในสิ่งที่เป็นความจริงเนอะ ดีกว่าเขาโกหกเรา พูดแล้วทำให้เราเอามาปรับ มาพัฒนาขึ้น