การค้นหาตนเองและเลือกเรียนในสิ่งที่ชอบ อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับน้อง ๆ บางคน เพราะไม่รู้ว่าตนเองชอบอะไร หรืออยากทำอะไร แต่ถ้าหากเราไม่ค้นหาตนเองและเลือกเรียนตามเพื่อน หรือตามที่บ้านบอก มันก็ส่งผลเสียต่อตัวน้อง ๆ เองในที่สุด ทำให้ชีวิตการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย 4 ปีของเราไม่มีความสุข จบออกมาแล้วก็หางานลำบากอีก
แนวทางการค้นหาตนเอง เลือกเรียนต่อในคณะที่ใช่
และในบทความนี้ แคมปัส-สตาร์ ก็ได้รวบรวม 5 วิธีการค้นหาตนเอง เพื่อให้เจอในสิ่งที่ตนเองชอบหรือต้องการมาฝากน้อง ๆ กันด้วย จะมีวิธีอะไรบ้าง ตามมาดูกันได้เลย (แคมปัส-สตาร์ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อน้อง ๆ ทุกคนนะจ๊ะ อย่าลืม! เอาไปใช้กันนะ)
1. ถามตัวเองว่า.. อนาคตอยากทำอะไร?
ก่อนที่น้อง ๆ จะตัดสินใจว่า เลือกเรียนต่อในคณะ/สาขาวิชาไหนดีนั้น เราควรหันมาถามตัวเองก่อนว่า “ในอนาคตเราอยากจะทำอะไร หรือประกอบอาชีพด้านไหน” ถ้าน้อง ๆ ยิ่งรู้ไวว่าตนเองชอบ และอยากทำอะไรในอนาคต ก็จะยิ่งช่วยทำให้เราเลือกเรียนต่อในคณะ/สาขาวิชาที่ต้องการได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่ถ้าน้อง ๆ คนไหนยังค้นหาตัวเองไม่เจอ อย่างน้อย ๆ ก็ต้องรู้ว่าตัวเองชอบทำอะไร หรือสนใจอะไรเป็นพิเศษ ก็สามารถเลือกเรียนต่อจากสิ่งที่ชอบได้เช่นกัน
2. เลือกเรียนสาขาวิชาที่ใช่
เมื่อน้อง ๆ รู้ตัวเองแล้วว่าชอบอะไร อยากทำอะไรในอนาคต สิ่งต่อมาที่ต้องทำก็คือ การเลือกเรียนในสาขาวิชาที่ต้องการ (สาขาวิชา คือส่วนย่อยของคณะ) ดังนั้นน้อง ๆ ควรจำไว้เลยว่าการเลือกสาขาวิชามีความสำคัญมากกว่าการเลือกคณะ เช่น หากน้อง ๆ สนใจอยากศึกษาต่อด้านภาษาญี่ปุ่น เราก็ต้องมาดูกันว่าในแต่ละคณะ ไม่ว่าจะเป็นคณะอักษรศาสตร์ ศิลปาศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ เขามีการเปิดสอนสาขาวิชาภาษาญี่ปุ่นอย่างไรบ้าง แล้วเราก็มาดูว่าในคณะไหนที่ตรงใจเรามากที่สุด จึงค่อยเลือกเรียนต่อในคณะนั้น ฯลฯ
หรือในบางมหาวิทยาลัยก็มีชื่อคณะและสาขาวิชาที่ไม่ตรงกัน ดังนั้นน้อง ๆ ควรเลือกสาขาวิชาที่ต้องการก่อนเลือกคณะ เช่น น้อง ๆ ที่อยากเรียนต่อด้านบัญชี ซึ่งในบางมหาวิทยาลัยหลักสูตรด้านบัญชีก็จะตั้งอยู่ในคณะบริหารธุรกิจ หรือคณะการจัดการ เป็นต้น ดังนั้นน้อง ๆ ควรดูรายละเอียดก่อนการสมัครให้ดีด้วยนะจ๊ะ ไม่งั้นอาจจะพลาดสมัครผิด หรือสมัครไม่ทันได้นะ
3. ดูชื่อเสียงของสถาบันว่าเป็นอย่างไร
เมื่อน้อง ๆ เลือกสาขาวิชาและคณะที่ต้องการเข้าศึกษาต่อได้แล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือ การเลือกมหาวิทยาลัยที่ต้องการเข้า โดยเราจะต้องดูด้วยว่ามหาวิทยาลัยแห่งไหนบ้างที่มีชื่อเสียงด้านที่เราต้องการเข้าศึกษาต่อ ซึ่งมีวิธีง่าย ๆ ในการดูความเจ๋งของมหาวิทยาลัยก็คือ ดูอันดับคะแนนสอบย้อนหลังในปีที่ผ่าน ๆ มาว่าเป็นอย่างไรบ้าง และอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องดูก็คือ อันดับโลกในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยจากทั่วโลกว่าอยู่ในอันดับไหนของโลก และอยู่ในอันดับไหนของไทย
4. สำรวจดูว่า.. เราจะเข้าเรียนต่อได้ไหม
หลังจากที่ค้นหาตนเองเจอแล้วว่าอยากเรียนต่อด้านไหน ต่อมาน้อง ๆ ก็ต้องมาสำรวจและพิจารณาว่าตนเองมีสิทธิ์เข้าศึกต่อในมหาวิทยาลัยที่เลือกได้มากน้อยเพียงใด โดยอาจจะดูจากผลคะแนนสอบเข้าย้อนหลังในปีที่ผ่าน ๆ มาว่าเกณฑ์คะแนนมีความสูง-ต่ำมากน้อยเท่าไหน แล้วคะแนนที่เราทำได้มันจะอยู่ในเกณฑ์หรือเปล่า หากน้อง ๆ ดูผลคะแนนแล้วมีโอกาสน้อยมากที่จะสอบติด น้อง ๆ ก็ควรที่จะต้องหามหาวิทยาลัยสำรองเอาไว้ด้วยกันพลาดนะจ๊ะ
5. ดูปัจจัยด้านอื่น ๆ ประกอบการตัดสินใจ
การเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยไม่ใช่แค่การมาเรียนเท่านั้น แต่น้อง ๆ จะต้องใช้ชีวิตในการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัยถึง 4 ปีด้วยกัน ดังนั้นนอกจากน้อง ๆ จะดูเรื่องสาขาวิชา/คณะ ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยแล้ว ก็ต้องปัจจัยด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น ค่าเล่าเรียน อุปกรณ์การเรียน การเดินทาง หอพัก และสภาพแวดล้อม (ทั้งในรั้วมหาวิทยาลัยและนอกรั้วมหาวิทยาลัย) เป็นต้น