รศ. ดร.ชัยรัตน์ ตรีทรัพย์สุนทร นักวิจัยสถาบันพัฒนาและฝึกอบรมโรงงานต้นแบบ และอาจารย์ประจำสายวิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะทรัพยากรชีวภาพและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เจ้าของรางวัล “นักเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ประจำปี 2564″ จากมูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยถึงรายละเอียด ” กำแพงต้นไม้บำบัดมลพิษชนิดควบคุมตัวเองอัตโนมัติ ” ที่ได้รับรางวัล ฯ ว่า เป็นเทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี การใช้พืชบำบัดมลพิษ เทคโนโลยีตัวดูดซับกับการออกแบบด้านวิศวกรรมศาสตร์ ในการดึงดูดอากาศที่ปนเปื้อนมลพิษ เข้ามาปะทะกับพื้นที่ปลูกพืช ด้วยอัตราการไหลเวียนอากาศที่เหมาะสม เพื่อบำบัดอากาศในบริเวณโดยรอบ จากฝุ่น ควันและมลพิษทางอากาศให้สะอาดขึ้น
กำแพงต้นไม้อัจฉริยะ
ผลงานนักวิจัย มจธ. คว้ารางวัลนักเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ปี 64
“แม้ว่าในปัจจุบัน จะมีกำแพงต้นไม้บริเวณป้ายรถเมล์หรือถนนทั่วไป แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ด้วยปัญหาเรื่องการรดน้ำต้นไม้ หรือใช้ต้นไม้ที่ไม่เหมาะสมกับพื้นที่ ในการดักจับฝุ่นละอองเล็ก ๆ ที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น สุดท้ายกำแพงต้นไม้ถูกปล่อยร้างไปในที่สุดและไม่มีประสิทธิภาพในการบำบัดมลพิษอากาศมากเท่าที่ควร คณะผู้วิจัยจึงพยายามผสมผสาน Smart farming technology เข้ามาอยู่ในสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้”
ทั้งนี้ จากการทดสอบประสิทธิภาพของกำแพงต้นไม้อัจฉริยะในการบำบัดมลพิษอากาศ พบว่า ระบบ ฯ มีความสามารถในการลดสารอินทรีย์ระเหยง่ายได้มากกว่าร้อยละ 80 และลดฝุ่น PM2.5 ได้ประมาณร้อยละ 60 จากการไหลผ่านของอากาศพียง 1 รอบ
นอกจากนี้ คณะผู้วิจัยยังใช้ ระบบการควบคุมกำแพงต้นไม้บำบัดมลพิษ แบบอัตโนมัติ ทั้งการรดน้ำ ล้างใบ และการตรวจวัดคุณภาพอากาศในบริเวณโดยรอบ ที่รองรับทั้งการควบคุมโดยมนุษย์ ควบคุมตัวเองแบบอัตโนมัติและการควบคุมผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งระบบดังกล่าว สามารถปรับความถี่ในการรดน้ำต้นไม้ แสดงคุณภาพอากาศในบริเวณโดยรอบและปรับความเร็วของลมในการดูดอากาศของระบบ ฯ ได้เองตามสภาพอากาศบริเวณนั้น ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ
“แม้ว่าเทคโนโลยีกำแพงต้นไม้อัจฉริยะตัวนี้ ไม่ได้ถึงขั้นบำบัดฝุ่นในกรุงเทพ ฯ ทั้งหมด เพราะฝุ่นในกรุงเทพ ฯ มีปริมาณเยอะมาก แต่เป็นการสร้างพื้นที่เล็ก ๆ ให้มีอากาศบริสุทธิ์และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในชุมชนเมือง โดยเฉพาะคนที่เข้ามาอยู่ในบริเวณกำแพงต้นไม้นี้ จะได้รับอากาศที่ผ่านการกรองโดยต้นไม้ สร้างความปลอดโปร่ง
โดยเราออกแบบให้มีเก้าอี้นั่งในฝั่ง Relaxing zone อีกฝั่งหนึ่งจะปลูกต้นไม้ โดยอากาศจะถูกดูดเข้ามาบริเวณชั้นกรอง จากนั้นจะมีการไหลเวียนอากาศ ที่ถูกควบคุมแบบสลับฟันปลา ที่มีความเร็วลมเหมาะสม อากาศที่ผ่านการกรองจะถูกพ่นลงมาเป็นม่านลม ฉะนั้นบริเวณดังกล่าวจะมี ฝุ่น PM.2.5 สารระเหยและอุณหภูมิลดลง โดยผู้ควบคุมสามารถดูข้อมูลคุณภาพอากาศผ่านอินเทอร์เน็ตได้ มีหน้าจอที่แสดงผล มีแถบสีที่แสดงคุณภาพอากาศในบริเวณนั้น นอกจากนี้มลพิษในอากาศจะเป็นตัวไปควบคุมความเร็วลม ถ้ามลพิษมีปริมาณสูงระบบฯ จะเร่งความเร็วในการกรอง และสามารถตั้งเวลาในการรดน้ำต้นไม้ผ่านโทรศัพท์มือถือด้วย”
ปัจจุบันเทคโนโลยีดังกล่าวได้มีการยื่นจดสิทธิบัตร โดยใช้ชื่อว่า กำแพงต้นไม้บำบัดมลพิษชนิดควบคุมตัวเองอัตโนมัติ และอยู่ระหว่างการพัฒนาในเชิงพาณิชย์ โดยการย่อขนาดให้เล็กลง เพื่อการเข้าถึงการนำไปใช้ของประชาชนทั่วไปมากขึ้น โดยคณะผู้วิจัยเชื่อว่า เทคโนโลยีชิ้นนี้จะเป็นก้าวแรก ในการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสีเขียว อย่างเป็นรูปธรรม และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนไทย
อย่างไรก็ตาม รศ. ดร.ชัยรัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในยุคของการพึ่งพาเทคโนโลยี นักวิจัยต้องมีการปรับตัวอย่างมากหากต้องการพัฒนานวัตกรรมในเชิงพาณิชย์ หรือผลักดันสู่ภาคอุตสาหกรรม และเชื่อว่า การจะก้าวกระโดดขึ้นเป็นผู้นำ ในแวดวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือ การพัฒนาเทคนิคและเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง ตามโจทย์ความต้องการจริงของทิศทางธุรกิจในตลาดโลก เพื่อให้เทคโนโลยีไทยสามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์และเกิดความยั่งยืนของเศรษฐกิจไทย
รศ. ดร.ชัยรัตน์ ตรีทรัพย์สุนทร
บทความแนะนำ
- “หุ่นยนต์ขันโตก” สู่ “Tiny Carrier” เบื้องหลังการคว้ารางวัล การประกวดหุ่นยนต์ ที่จีน
- อยากเรียน เศรษฐศาสตร์ ต้องใช้คะแนนอะไร? เรียนที่ไหน? จบแล้วทำงานที่ไหนได้บ้าง?
- บัญชี กับ การเงิน ต่างกันอย่างไร ? แล้วจะเลือกเรียนอะไร เรียนที่ไหนดี
- น่าเรียน 10 หลักสูตรใหม่นอกกระแส จบมาแล้วฮอตแน่นอน ทำงานไม่ซ้ำใคร
- 4 ทักษะสำคัญของการเป็น นักบัญชี – ปรับตัวให้ทันเทคโนโลยี ถ้าไม่อยากให้ AI มาแทนที่