คณะศิลปกรรมศาสตร์ ต้องเต ธิติ นักศึกษา มมส หนุ่มหน้าตาดี ไทบ้านเดอะซีรีย์ ไสว่าจะบ่ถิ่มกัน

ต้องเต-ธิติ หนุ่มขี้เล่นแต่บุคลิกสุดแนว ที่แปลกจนไม่มีใครเหมือน

Home / ดาวเด่นมหาวิทยาลัย / ต้องเต-ธิติ หนุ่มขี้เล่นแต่บุคลิกสุดแนว ที่แปลกจนไม่มีใครเหมือน

หนุ่มอารมณ์ดีขี้เล่น ออกแนวบ๊อง สร้างความเฮฮาให้กับคนรอบข้าง ต้องเต-ธิติ นักศึกษามากความสามารถ จากรั้วมหาวิทยาลัยเหลืองเทา มมส. หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตาเขากันมาบ้าง นักแสดงประกอบอย่าง MV เพลงโอ้ล่ะน้อ ไส่ว่าสิบ่ถิ่ม  ของพี่ก้องห้วยไร่  ทางด้านการแสดงก็มีมาให้ผ่านตาล่าสุดกับภาพยนตร์เรื่อง ” ไทบ้านเดอะซีรีย์”  ภาพลักษณ์ภายนอกที่ชอบสร้างเสียงหัวเราะให้คนอื่นเห็น ตัวตนจริงๆ แล้วต้องเตเป็นคนอย่างไร? เราตามไปรู้จักหนุ่มน้อยมาดกวนทะเล้นคนนี้พร้อมๆ กันเลยดีกว่า !!!

ต้องเต-ธิติ ฉีกกรอบ สร้างตัวตนใหม่

ต้องเต-ธิติ ศรีนวล

น้องต้องเต เอาดอกไม้ไปให้สาวคนไหนกันเนี้ย

1. ไม่ได้เลือกแต่ดันรัก

จุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดจากความบังเอิญที่เพื่อนลงให้เลยทำให้ผมได้มาเรียนที่นี่ครับ ตามจริงผมอยากไปเรียนที่ไกลๆ นะ อยากลองไปเปิด ประสบการณ์ไกลๆ เผื่อเจออะไรใหม่ๆ บ้าง ผมลงสมัครสอบหลายที่หลายคณะครับ ทั้งนิติศาสตร์ วิศวะก็ลง แต่บทจะได้เรียนคณะศิลปกรรมที่ มมส. พอจะได้ก็ได้ครับ เอาไปเอามาตอนนี้ผมกลับชอบในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เลือก หลงรักเพราะความบังเอิญ ตอนนี้บอกเลยครับ ขอบคุณคณะนี้มากเพราะมันทำให้ผมได้รู้ว่า ” สิ่งที่เป็นผมมันคืออะไร…สิ่งที่ผมเรียนอยู่ ทำอยู่ตอนนี้ มันคือตัวของผมจริงๆ ครับ “

ต้องเต-ธิติ ศรีนวล

ทรงผมที่สร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับหนุ่มต้องเต

2. ความกดดัน ที่มาคู่กันกับการเป็นลูกคนเล็ก

ผมมีพี่น้อง 2 คนครับ มีพี่สาว 1 คน ผมเป็นลูกคนเล็กของที่บ้าน แต่เรามีน้องบุญธรรมด้วยครับ 1 คน ครอบครัวของผมมีอาชีพที่มั่นคงกันทั้งหมด พ่อเป็นวิศวะ แม่รับราชการ อาชีพที่จะรับราชการ เลยเป็นอีกความคาดหวังหนึ่งของคนในครอบครัวผมครับ

3. ขอบคุณ มหาวิทยาลัย ทำให้เรากล้าเปิดเผยความเป็นตัวเอง

ผมมาจากโรงเรียนในชนบทที่มีนักเรียนมัธยมศึกษาตอน ม.ต้น-ปลาย รวมกันประมาณเกือบ 100 คน จากสังคมแคบๆ มาเจอสังคมใหม่ที่กว้างใหม่ หลากหลายสังคมมากขึ้น ผมตื่นเต้นสนุก เริ่มมีความกล้าที่จะแสดงออกความเป็นตัวตนของคนอย่างผมเองมากขึ้น โรงเรียนที่อยู่มาตลอดระยะ 6 ปีเต็มกับการเป็นเด็กในสายตาผู้ใหญ่ ที่ผมต้องทำตามกฎระเบียบ ผมปฎิบัติตามมาตลอดครับ พอมีโอกาสฉีกกรอบ ให้อิสระตัวเองบ้าง ( ช่วงมหาวิทยาลัย ) ผมก็ทำเต็มที่ครับ ที่เด่นชัดคงเป็นเรื่องสไตล์การแต่งตัวไปกันได้ดีกับนิสัยของผมเลยทีเดียว

ต้องเต-ธิติ ศรีนวล
ความน่ารัก ขี้เล่น จอมทะเล้นหรือเปล่าเราอ่ะ

4. ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ต้องมีระเบียบวินัยกับตัวเอง

ตารางเรียน การแบ่งแยกวันเวลา กิจกรรมที่ชัดเจน การจัดสรรเงินที่ต้องใช้จ่ายในแต่ละเดือนตอนนี้ผมได้อิสระเต็มที่ครับ ดูแลจัดการบริหารด้วยตัวเองทั้งหมด ถ้าชอบทำกิจกรรมพบปะสังสรรค์กับสังคมใหม่ๆ เรื่องเรียนก็ต้องอย่าขาด เพราะหน้าที่หลักของผม พ่อแม่ส่งมาเรียนผมก็ จะตั้งใจดูแลตัวเองเรียนจนสำเร็จการศึกษา ครับ

5. ที่เห็นอยู่คือ ผมปรับตัวให้เข้ากับแกงค์เพื่อนสาว

แกงค์ของผมมีทั้งหมด 9 คนครับ ส่วนมากจะเป็นสาวประเภทสอง และสาวๆ เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ผมต้องปรับเข้าหาพวกเขาเป็นอย่างมาก จนหลายๆ เวลาไปรวมกลุ่มใหญ่สังคมเขาพาทำให้อะไรเราก็ต้องทำครับ อย่างประโยคที่ว่าเข้าเมืองตาหลิ่วเราต้องหลิ่วตาตาม ถ้ากลุ่มเพื่อนผมไปรำตามงานผมก็ต้องไปรำกับสาวๆ เขา บางทีไปกินข้าวกันเสร็จไปนั่งแซวผู้ชาย ผมก็ต้องไปแซวกับเขานะครับ (ผมเป็นผู้ชายที่ต้องไปแซวผู้ชายมันก็ตลกดีนะครับ )

ต้องเต-ธิติ ศรีนวล
มากับทรงผมใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิมฮับ

6. ทุกชมรมในมหาวิทยาลัยผมเข้าหมด

ผมเริ่มทำกิจกรรมตั้งแต่ช่วงปี 1 เลยครับ ตั้งแต่ตอนนั้นถึงตอนนี้ 3 ปี ผมเป็นสมาชิกของทุกชมรมในมหาวิทยาลัยเลยก็ว่าได้ บางคนเข้าเพราะเป็นวิชาเลือกเสรี (ภาคบังคับ) ที่เราต้องเลือกเข้า อย่างน้อย 1 ชมรม แต่ผมกลับมองต่างคนอื่นนะครับ ผมมองว่าถ้าเราอยากได้เรียนรู้ประสบการณ์ ได้ทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคมโดยไม่หวังผลประโยชน์ เราไม่จำเป็นต้องทำตามระเบียบข้อบังคับก็ได้นะครับ “ถ้าสิ่งที่ทำมัน เป็นประโยชน์…ไม่ไปทำร้ายผู้อื่น” อยากทำอะไร ก็ทำไปเลยครับ ถ้าเราได้ทำในสิ่งที่ชอบเหนื่อยกายแต่สุขใจ ผมว่ามันคุ้มเกินคุ้มนะครับ

ต้องเต-ธิติ ศรีนวล

ลุค (สมมติว่า)เท่ห์ๆ ของผมก็มีมาให้ชมกันนะฮับ 555+

7. สิ่งที่เห็น กับความจริงสิ่งที่เป็น

ผมมองว่าผมเป็นคนแปลกนะครับ ไม่มีใครเหมือนผมและผมก็คงไม่เหมือนใคร (หัวเราะ) ชอบมีความคิด ฉีกกฎ แหวกแนวบ่อยมาก หลายๆ ครั้งที่ก่อนออกจากห้องแล้วผมมีเรื่องไม่สบายใจ ผมเลือกที่จะร้องไห้ปลดปล่อยความรู้สึกออกมาคนเดียว ก่อนออกจากห้องไปเจอเพื่อนๆ บนพื้นฐานความกดดันที่เราต้องเผชิญ ผมกลับเป็นคนขี้เกรงใจไม่กล้าเอาความทุกข์ไประบายกับคนรอบข้าง ” ผมไม่กล้าพอจะไปเอาความทุกข์ ที่เจออยู่…แบ่งไปให้ใคร ” ผมมองว่าปัญหาที่เกิดจากตัวผม ผมต้องหาวิธีเรียนรู้รับมือจัดการแก้ปัญหาเองครับ

ต้องเต-ธิติ ศรีนวล
กางเกงตัวโปรด ของหนุ่มน้อยสุดแนว

8. อิสระทางความคิด กับกระแสสังคม ช่างสวนทางในโลกความจริง

เอาสายตาที่มองเห็นไปตัดสินว่าเขาเป็นอย่างไร เขาผ่านเหตุการณ์ไหนมาบ้าง? จากภาพลักษณ์ การแต่งตัว ผมว่าสังคมในยุคนี้ก็เป็นแบบนี้เยอะนะครับ เจอคนสวมหน้ากากใส่กันบ่อย แต่ถ้าถามผมว่ามีเหตุการณ์ไหนที่ผมประทับใจสุดๆ ในสังคมที่เขาถอดเปลือก มีนะครับช่วงผมขึ้นปี 2 จากหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างที่คนอื่นมองว่าผมเหมือนคนขอทาน คนเก็บขยะ ผมเลยตัดสินใจทดลองไปใช้ชีวิต 5 วันกับคนที่เขาเก็บขยะในจังหวัดขอนแก่น ถ้ามองภายนอกเราคงสงสารและหวาดกลัวเขาใช่ไหมครับ ? แต่พอผมได้ไปเรียนรู้ ใช้ชีวิตอยู่กับเขาโลกใบนี้มันน่าอยู่จขึ้นเยอะ ผมอยากถาม อยากคิดอะไร ผมสามารถพูดออกไปเลยครับ ” อิสระทางความคิดและมุมมองของผู้คนในกระแสสังคมช่างสวน ทางกันในโลกความเป็นจริง” ผมคิดแบบนั้นนะครับ

ต้องเต-ธิติ ศรีนวล
ผมเอาความน่ารักเข้าสู้กับความหล่อฮะ

9. มิตรภาพใหม่เกิดได้ กับคนเก็บขยะ

เพื่อนใหม่ของผมเป็นคนเก็บขยะครับ เราสองคนใช้ชีวิต 5 วันลุยไปเก็บขยะด้วยกันทุกสถานที่ ต่างบอกเล่าเรื่องราวของชีวิตให้กันฟังโดยที่ผมไม่ต้องคำนึงเลยว่าจะเกิดผลกระทบอะไร เหตุการณ์นั้นยังอยู่ในความทรงจำทุกวันนี้ วันสุดท้ายผมให้เขาเลือกระหว่างเงิน 150 บาท กับต้นไม้ 1 ต้น เขาหันมายิ้มแล้วบอกผมว่าขอเลือกต้นไม้อยู่กับเขานะ เวลาที่เขาคิดถึงผมเขายังมีต้นไม้เป็นเพื่อนของเข าแต่ถ้าเขาเลือกเงินเพียง 150 บาท พอเขาใช้หมดมันมันก็มันไปเลย เพียงไม่กี่ประโยคในวันนั้นมันช่วยให้ผมเปลี่ยนความคิดหลายๆ อย่างมาจนถึงทุกวันนี้

ต้องเต-ธิติ ศรีนวล
มีใครสนใจจจะไป แว๊น กับผมบ้างไหมฮะ

10. ตัวตลกที่ใครๆ ก็ไม่อยากเป็น

ที่เขาบอกว่า ” ไม่มีใครอยากเป็นตัวตลกของใครหรอกนะ “ คำพูดนี้คงใช้กับผมไม่ได้ ในทางกลับกันผมมองว่า ถึงแม้เราไม่มีความสุขแต่เราเพียงคนเดียวสร้างเสียงหัวเราะให้กับใครหลายๆ คนผมว่ามันเจ๋งดีนะครับ ผมชอบเวลาที่ทุกคนยิ้ม ทุกคนมีเสียงหัวเราะมันช่วยทำให้บรรยากาศรอบๆ น่าอยู่ขึ้นเยอะ ผมคิดแบบนั้นจริงๆ

11. แม้ความจริงจะไม่งดงาม

มันขึ้นอยู่กับว่าเราแต่ละคนอยากได้ฟังคำประเภทไหน ใครเป็นพูดกับเรามากกว่าครับ ผมชอบฟังความจริงถึงแม้มันจะไม่เป็นไปตามที่เราคิด แต่บทสรุปสุดท้ายมันคือเรื่องราวที่เราต้องพบเจอ ไม่ช้าก็เร็วที่ต้องเจอ ผมเลือกความจริงที่แสนเจ็บปวดดีกว่าครับ มันจะได้เป็นประสบการณ์ที่ดีต่อผม เพราะเรื่องจริงแล้ว ” โลกใบนี้โหดร้ายเสมอ”

ต้องเต-ธิติ ศรีนวล
เขามีแต่ใส่ร้ายป้ายสี แต่ผมโดนสาดสี ใส่ซะงั้น ฮึบๆ

12. ลำบากให้มากที่สุดจะได้รู้ว่า “ความสุขที่แท้จริงมันยิ่งใหญ่มากแค่ไหน”

ทุกๆ เรื่องราว ประสบการณ์ผมเชื่อว่ามันเข้ามาเพื่อให้เราเรียนรู้ โลกมันมีสองด้านด้านมืดและด้านสว่าง ตอนนี้ผมทั้งเรียนทั้งทำงานไปด้วยยอมรับว่ามีเหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง แต่ความฝันของผมคืออยากมีอาชีพที่มั่นคงเลี้ยงดูครอบครัวได้ “ความฝันบางอย่าง…เรายังต้องลดบั่นทอนลงใช้ชีวิตอยู่กับความเป็นจริงเพื่อความก้าวหน้าของครอบครัว”

ประวัติส่วนตัว

ชื่อ-สกุล : ต้องเต-ธิติ ศรีนวล
สถาบันการศึกษา : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม คณะ : ศิลปกรรมศาสตร์ สาขา : ภาควิชาศิลปะการแสดง เอก :ศิลปะการละคร ชั้นปีที่ 3
วันเกิด : 11 มีนาคม 2539
ส่วนสูง : 175 ซม. น้ำหนัก : 60 กก.
งานอดิเรก : เขียนบท เป็นคนเก็บขยะ
วิชาที่ชอบ : ศิลปะ
ของชิ้นโปรด : กางเกงขาด เสื้อขาด
ชอบสะสม : ต้นไม้ กล้อง
ตรงงานอดิเรก : เข้าป่า ปลูกต้นไม้ เก็บขยะ
คติประจำใจ : ชีวิตคืออะไร

ขอบคุณภาพประกอบ FB : ต้องเต ต้องเต IG : tongte_tongte