มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงตะวันออก วิทยาเขตจักรพงษภูวนารถ เปิดตึกใหม่เพื่อรองรับนักศึกษาใหม่ที่จะเข้ามาเรียน โดยแต่ก่อนเป็นอาคาร 6 ซึ่งเป็นแหล่งรวมเครื่องออกกำลังกายสำหรับทางนักศึกษา ทั้งยังเปิดให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้ได้ และสนามฟุตซอลที่เหล่านักศึกษาจัดกิจกรรมเกี่ยวกับฟุตบอลของคณะเป็นประจำในทุก ๆ ปี ครั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยได้ปิดพื้นที่สร้างตึกใหม่ที่มีทำเลที่ดีที่สุดของมหาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับนักศึกษาที่มีจำนวนมากขึ้นอีกด้วย
มทร. ตะวันออก วข.จักรพงษภูวนารถ สร้างตึกใหม่ อาคารเอนกประสงค์
เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจักรพงษภูวนารถ ได้จัดพิธีทำบุญขึ้นปีใหม่ 2562 และงานสานสัมพันธ์วัฒนธรรมองค์กร พร้อมในโอกาสนี้ได้จัดทำพิธี เปิดการใช้อาคารเรียนหลังใหม่อย่างเป็นทางการ
ประวัติความเป็นมา
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล จัดตั้งขึ้นเป็นสถาบันอุดมศึกษาระดับปริญญาครั้งแรก เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2518 โดยพระราชบัญญัติวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา พ.ศ. 2518 ใช้ชื่อว่า “วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา” และโอนวิทยาลัยเทคนิค วิทยาลัยเกษตรกรรม และวิทยาลัยต่างๆ ในสังกัดกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ เข้ามาสังกัด ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “ราชมงคล” เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2531 (วันราชมงคล) พร้อมทั้งมีพระราชบัญญัติเปลี่ยนชื่อวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเป็นสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล พ.ศ. 2532 ทำให้วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา ได้รับการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล”
อาคารหลังใหม่ชื่อ “อาคารเอนกประสงค์”
อาคารเอนกประสงค์เป็นอาคารสูง 8 ชั้น ตั้งอยู่ด้านหลังอาคาร 8 อาคารหลังนี้ใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 2 ปีเเล้วเสร็จ โดยอาคารนี้จะใช้เป็นสถานที่จัดการเรียนการสอนของคณะบริหารธุรกิจฯ ได้แก่ สาขาวิชาการตลาด (ชั้น 4) สาขาวิชาเทคโนโลยีสื่อดิจิทัล (ชั้น 5) และบางส่วนของสาขาวิชาการจัดการ (ชั้น 3) ส่วนชั้น 2 ของคณะศิลปศาสตร์ สาขาการท่องเที่ยวและการโรงเเรม ส่วนชั้น 6-7 เป็นห้องเรียนร่วมและใช้ในกิจกรรมของมหาวิทยาลัย และชั้นบนสุด (ชั้น 8 เป็นโรงยิม สำหรับการเรียนการสอนวิชาด้านพลศึกษา-นันทนาการ โดยมี รศ.ดร.สมชาย ปฐมศิริ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก พร้อมผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ นักศึกษา เข้าร่วมงานในครั้งนี้