สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่กำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษา และใกล้ที่จะก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัยกันแล้วนั้น แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกเรียนต่อด้านไหนดี หรือไม่รู้ว่าคณะที่เราจะเลือกเข้าศึกษาต่อนั้น เขาเรียนกันกี่ปี ในบทความนี้ แคมปัส-สตาร์ ก็ได้หาคำตอบ แต่ละคณะต้องเรียนกี่ปี มาฝากกันค่ะ
แต่ละคณะต้องเรียนกี่ปี ?
การเข้าเรียนต่อในรั้วมหาวิทยาลัย ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่น้อง ๆ จะต้องคิดและเลือกเรียนต่อในสิ่งที่ตนเองชอบ หรือมีความฝันอยากจะทำอาชีพในคณะที่เรียนจบมา เพราะถ้าน้อง ๆ เลือกเรียนตามเพื่อน หรือเลือกเรียนตามกระแสนั้น เมื่อเข้าไปเรียนจริง ๆ แล้วอาจจะทำให้น้อง ๆ ไม่มีความสุขในการเรียนได้นะคะ และนี่ก็คือรายชื่อคณะต่าง ๆ ที่เรียนตั้งแต่ 4 ปี 5 ปี และ 6 ปี จะมีคณะไหนบ้าง มาดูกันได้เลย
คณะเรียน 4 ปี
- คณะพยาบาลศาสตร์
- คณะเทคนิคการแพทย์
- คณะสหเวชศาสตร์
- คณะสาธารณสุขศาสตร์
- คณะอักษรศาสตร์
- คณะนิเทศศาสตร์
- คณะศิลปศาสตร์
- คณะมนุษยศาสตร์
- คณะศิลปกรรมศาสตร์
- คณะวิทยาศาสตร์
- คณะรังสีเทคนิค
- คณะรัฐศาสตร์
- คณะเกษตรศาสตร์
- คณะวิศวกรรมศาสตร์
- คณะบัญชี
- คณกายภาพบำบัด
- คณะบริหารธุรกิจ
- คณะจิตวิทยา
- คณะครุศาสตร์
- คณะศึกษาศาสตร์
- คณะนิติศาสตร์
- คณะสังคมสงเคราะห์
- คณะเศรษฐศาสตร์
คณะเรียน 5 ปี
- คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ หลักสูตรสถาปัตยศาสตรบัณฑิต
** ยกเว้น คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต 4 ปี
คณะเรียน 6 ปี
- คณะแพทยศาสตร์ หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต
- คณะทันตแพทยศาสตร์ หลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต
- คณะเภสัชศาสตร์ หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต
- คณะสัตวแพทยศาสตร์ หลักสูตรสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต
- คณะทัศนมาตรศาสตร์ หลักสูตรทัศนมาตรศาสตรบัณฑิต
3 เคล็ดลับเลือกเรียนต่อในสิ่งที่ใช่
1. หาอาชีพในฝัน ที่เราอยากจะเป็น
เชื่อว่าทุกคนจะต้องมีอาชีพในฝันกันอย่างแน่นอน ดังนั้นก่อนที่เราจะสมัครเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยให้เราลองถามตัวเองก่อนว่าอยากจะทำงานอะไร ที่ทำแล้วมีความสุขไปกับมันแต่ถ้ายังคิดไม่ออกให้เราลองมองไปรอบๆ คนใกล้ตัว หรือคนอื่นๆ ที่เขาทำงานกันแล้ว ลองดูว่างานที่เขาทำกันนั้นมีงานไหนบ้างที่เราเห็นแล้วอยากจะทำตามในทันที และเมื่อเรารู้ตัวเองแล้วว่าต้องการทำอาชีพไหนหรือทำงานทางด้านไหน ต่อมาก็ให้เรามาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคณะที่ต้องการกันได้เลย
2. ลองเข้าค่ายกิจกรรมดูบ้าง
ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมเข้าค่าย หรืองาน OPEN HOUSE ในแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีการจัดขึ้นในทุกปีและแยกออกเป็นคณะ/สาขาวิชา ให้เราได้ไปค้นหาตัวเองกันได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งโดยส่วนมากแล้ว การกิจกรรมเหล่านี้จะจัดขึ้นโดยนักศึกษาของคณะนั้นๆ โดยการเข้าส่วนใหญ่จะเป็นการเข้าหลายวัน ทำให้เราได้รับทั้งความรู้ในภาคทฤษฎีและฝึกปฏิบัติจริง พร้อมทั้งยังได้เรียนรู้จักเพื่อนใหม่ๆ ได้พูดคุยกับรุ่นพี่ที่เรียนในคณะนั้นจริงๆ อีกด้วย ถือได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อตนเองอย่างมากมายเลยทีเดียว ทั้งนี้เรายังจะได้ใบประกาศนียบัตรจากการเข้าร่วมกิจกรรม และนำมาทำเป็นโปไฟล์ในการสมัครเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยได้ด้วย
3. หาที่ปรึกษา เพื่อขอคำแนะนำ
ถ้าเราค้นหาตัวเองไม่เจอในสิ่งที่ชอบจริงๆ ก็ยังมีอีกหนึ่งวิธีก็คือหาที่ปรึกษา ซึ่งอาจจะเป็นอาจารย์ประจำวิชาแนะแนวที่โรงเรียนก็ได้ เพราะยังไงท่านก็มีข้อมูลเตรียมเอาไว้ให้น้องๆ กันอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นคณะที่น่าเรียน คะแนนที่ใช้ในการสอบเข้า หรือเราอาจจะขอคำปรึกษา จากรุ่นพี่ที่เรียนจบและเข้าเรียนต่อ ที่มหาวิทยาลัยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ได้ เราอาจจะลองถามพี่เขาเกี่ยวกับคณะที่เขาเรียนว่าเป็นอย่างไร เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง เพื่อใช้เป็นแนวทางให้กับตนเอง
อ้างอิงข้อมูลจาก FB : PreTcas สอบเข้ามหาวิทยาลัย by AdmissionPremium
บทความที่น่าสนใจ
- กำหนดการมาแล้ว งานเปิดบ้าน 7 สถาบันการศึกษา ที่น้อง ๆ ไม่ควรพลาด
- หลักสูตร/สาขาวิชาใหม่ จาก 5 มหาลัยไทย จบแล้วมีงานรองรับ
- น่าเรียน ! 10 หลักสูตรใหม่นอกกระแส จบมาแล้วฮอตแน่นอน ทำงานไม่ซ้ำใคร
- 10 วิชาแปลกน่าเรียน ที่มีเปิดสอนจริงในมหาวิทยาลัยไทย ได้ความรู้ ประสบการณ์น่าสนใจ
- รวมรายชื่อ คณะน่าเรียน จะมีคณะไหนบ้าง ตามมาดูกันเลย