หลังคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการ พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 เพื่อรวบกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. กับกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต หรือ กรอ. เข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
กยศ. เตรียมหักบัญชีรายได้ของลูกหนี้
วันที่ 11 มิ.ย.2560 ที่ผ่านมา นายปรเมศวร์ สังข์เอี่ยม ผู้อำนวยการฝ่ายคดีและบังคับคดี กยศ. ระบุว่า กฎหมายฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้วันที่ 26 ก.ค.60 นี้ โดยกฎหมายได้ระบุให้นายจ้าง สามารถหักเงินจากรายได้ของลูกจ้างที่เป็นลูกหนี้ในกองทุน กยศ. เช่นเดียวกับการหักภาษีของกรมสรรพากรในแต่ละเดือน
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลของลูกหนี้ กยศ. ที่มีอยู่ทั้งหมด 4 ล้าน 8 แสนคนและประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องราชการและบริษัทเอกชน เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กรมสรรพากร เพื่อดูข้อมูลที่อยู่ สถานที่ทำงาน รายได้ เพื่อทำเรื่องหักบัญชีเงินเดือนของลูกจ้าง นำส่งคืนกองทุน กยศ.
เบื้องต้นจะเริ่มหักรายได้ลูกหนี้ กยศ. ที่เป็นข้าราชการก่อนซึ่งมีประมาณ 100-200 หน่วยงาน โดยมีข้าราชการที่เป็นลูกหนี้ กยศ.และค้างชำระหนี้ ทั้งสิ้น 200,000 ราย มูลหนี้ 80,000 ล้านบาท
จากนั้นจะทยอยประสานบริษัทเอกชน เพื่อหักรายได้ของลูกจ้าง มั่นใจว่า จะช่วยลดยอดหนี้ค้างชำระได้ ที่มีอยู่ ร้อยละ 53 ของจำนวนลูกหนี้ค้างชำระทั้งหมด 1.9 แสนราย มูลหนี้ 62,000 ล้านบาท
ส่วนแนวทางการดึงลูกหนี้ กยศ.เข้าสู่ระบบเครดิตบูโร อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลให้ถูกต้องที่สุด คาดว่า จะเริ่มดึงลูกหนี้กยศ.เข้าสู่เครดิตบูโรได้ในปี 2563 จากเดิมปี 2561
ขอบคุณข้อมูลจาก : Thai PBS
บทความแนะนำ
- มาเลเซีย Block Passport – นักศึกษาที่ไม่จ่ายเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาคืน หลังเรียนจบ
- ทุนการศึกษา ธปท. คืออะไร? หากรับแล้วต้องกลับมาทำงาน ธปท. เท่านั้นจริงมั้ย?
- 13 คำถาม-ตอบน่ารู้ ก่อนไปเรียนที่ ม.ยอนเซ, เกาหลีใต้ และทุนเรียนต่อ MBA
- 10 มหาวิทยาลัยประเทศเกาหลีใต้ ที่คนไทยนิยมไปเรียนมากที่สุด
- 5 คำแนะนำ เรียนต่อต่างประเทศ การหาทุน ขอทุนการศึกษา
- หลัก 3 เขียน Cover Letter เพื่อใช้สมัครขอรับทุนการศึกษา